คุยกับพันธมิตรมา...
เขาว่าตำรวจไม่ควรใช้กำลังสลายพันธมิตรอย่างรุนแรงก่อน
เมื่อเช้า พันธมิตรแค่ไปกั้นรั้วลวดหนาม ไม่ให้ สส. เข้าทำงาน
แต่ตำรวจกรูเข้ามาสลาย และที่ให้อภัยไม่ได้คือ
มีการใช้ระเบิด ซึ่งรุนแรงเกินกว่าเหตุ
และผู้ที่ต้องรับผิดชอบคราวนี้คือ นายกรัฐมนตรี และ พล.ต.อ.จงรักษ์ จุฑานนท์
...
โอเค...
ฟังแล้วเข้าใจครับ สรุปคือ ตำรวจใช้อาวุธหนัก ใช้กำลังเกินกว่าเหตุ
ในความเห็นผม...
ถ้าจะสลายการชุมนุม ผมว่าการใช้แก๊สน้ำตานี่ก็ถือว่าเบาสุดแล้วนะครับ
ขนาดว่าใช้แก๊สน้ำตา คราวก่อนยังบ่นกะปอดกะแปดว่าทำเกินกว่าเหตุเลย
ตกลงจะให้ตำรวจวิ่งเอายาหม่องไปป้ายตาใช่มั๊ยครับ ถึงจะว่าเบาพอ
ตอนนี้ผมไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่ รู้แต่ว่าเรื่องนี้ทำให้ผมทะเลาะกับคนอื่นไร้สาระมากๆ
ดีไม่ดี กว่าจะรู้ว่าอะไรเป็นอะไร ก็ตอนเราแก่โน่นละมัง...
...
คุณเกิดไม่พอใจความรวยของเจ้าของห้างเอ็มโปเลี่ยม
คุณไปยืนเปรี้ยวตีนขวางทางเข้าห้างเอ็มโปเลี่ยม บอกว่าอหิงสาไม่มีอาวุธ
พอยามห้างมาเชิญคุณออก คุณก็นั่งลง บอกอารยะขัดขืน
พอยามเริ่มช่วยกันหิ้วคุณออกไป คุณว่าเขาใช้กำลังก่อน
พอคุณดิ้นไปถีบไป ยามจุก คว้ากระบองออกตี คุณหาว่าเขาใช้อาวุธเกินกว่าเหตุ
คุณแย่งกระบองยาม ตีหัวยามแตก เพื่อนยามทนไม่ไหว ชักมีดเสียบเพื่อนคุณบาดเจ็บ
คุณจะบอกว่า ยามผิด... คุณถูก... เหรอ?
...
นี่แหละ ตรรกะ แบบที่ผมเจอ....
ปล. มีคนท้วงติงเรื่องเจ้าของห้างเอ็มโปลี่ยม ขอบอกว่าผมไม่ได้เปรียบเทียบกับทักษิณ
ไม่ต้องถามเรื่องประเด็นทุจริตเชิงนโยบายหรืออะไร เพราะผมพูดถึงเจ้าของห้างสมมุติคนหนึ่งเท่านั้น
และเ้น้นเรื่องตรรกะ ไม่ใช่เรื่องใครทำอะไรที่ไหนอย่างไรนะครับ
ไม่มีความคิดเห็น:
ไม่อนุญาตให้มีความคิดเห็นใหม่