วันอาทิตย์, ตุลาคม 28, 2550

ได้กล้องกลับมาแล้วครับผม...

เมื่อวานกินแอคติเฟด แก้น้ำมูกไหล
หลังจากที่ไม่ได้กินมานานมากแล้ว

ก็เลยพบว่า มันทำให้ง่วงได้ภายใน 5 นาที
และง่วงแบบว่า "ต้องหลับ" เลยล่ะครับ

แถมยังออกฤทธิ์ตกค้างไปถึงตอนจะนอนจริงๆ
ทำให้รู้สึกเลยว่าสิ้นสติเร็วกว่าปกติ และนอนยาวตื่นสาย...

อาการหนักกว่ากินคลอร์เฟนิรามีนเยอะเลยครับ

คาดว่าต่อไปถ้าไม่จำเป็น คงกินแค่คลอร์เฟก็พอ ไม่ไหวครับ...

.

กลับมาเข้าเรื่อง...

หลังจากที่ผมส่งกล้องไปซ่อม เพราะทำพังกันดื้อๆ
เมื่อวันที่ 1 กันยายน 2550 ที่ผ่านมา
กล้องพัง...

และส่งซ่อมกับร้านไปเมื่อวันที่ 2 กันยายน
เอากล้องส่งเคลมไปแล้วครับ...

รอแล้วรอเล่าเฝ้าแต่รอ...

วันนี้ วันที่ 28 ตุลาคม 2550
มันก็กลับมาหาผมแล้วครับ...

ก็ไปรับเอาจากร้านเดิมที่ไปส่งซ่อมนั่นแหละครับ

เสียแต่ทาง Panasonic ไม่มีนโยบายส่งกลับให้ถึงบ้าน
ทั้งๆที่ตอนจ่าย ให้โอนเงินเข้าบริษัทเลยแท้ๆ

ใจร้ายไปนิดนึงนะครับ... ;)

ห่อเป็นแหนมกลับมา ครบทั้งกล้องซ่อมแล้ว และชิ้นส่วนอันเก่า...

ทดลองใช้ดูก็ใช้งานได้ปกติ
และสิ่งที่ผมสังเกตเห็นได้เลยคือ

เสียงเวลาเลื่อนเลนส์เข้าออกของ Panasonic
ดังกว่าของ Fuji อย่างเยอะครับ

ผมใช้ Fuji ขนาดรุ่นเก่ากว่าแท้ๆ
แต่ Fuji เลื่อนชุดเลนส์ได้นุ่มนวล รวดเร็ว และเงียบกว่าครับ
ไม่เชื่อไปลองได้...

ไหนๆ ก็ได้มาแล้ว ก็เลยขอเอาชุดเลนส์ที่ถอดออกมาให้ดูกัน
เป็นบุญตาแก่ประชาชี ดีกว่าเก็บไว้คนเดียว...

นี่ด้านหน้า...

มุมบุบเหมือนเดิม แสดงว่าส่งมาไม่ผิดแน่ๆ
สภาพกล้องก่อนส่งซ่อม... [photo]

และนี่ด้านหลัง...

ด้านซ้ายแท่งยาวๆ นั่นคือมอเตอร์ครับ
เวลาเปิดมันจะหมุน แล้วก็ไปขับเฟืองที่ยืดเลนส์เข้าออก

สีน้ำตาลก็เป็นสายแพ ส่งสัญญาณ

สงสัยว่าชุดกันสั่น Mega O.I.S. จะอยู่ในนั้นด้วย
อยากแงะมาดูเหมือนกันครับ แต่เกรงใจ เอาไว้ก่อน...

.

ตอนนี้เลยไปขุดเอาสายเกี่ยวข้อมือ หรือ Strap ที่เขาแถมให้ในกล่องมาใช้

กะว่าอย่างน้อยก็เผื่อเวลาลื่นหลุดมือยังมีที่ให้คว้าเพิ่มขึ้น
เพราะกล้องมันลื่นมาก ไม่ติดแถบยางกันลื่นมาให้ซักนิดเลย...

คาดว่า และหวังเป็นอย่างยิ่งว่า

ต่อไปคงไม่ซวยทำกล้องตกพังอีกแล้วนะครับ...

มันซ่อมแพง และมันเปลืองมาก... 3,113.7 บาท...

เดือนนี้รับประทานแกลบไปเลยครับ...

Technorati Tags: , , , , , ,

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

เชิญแสดงความคิดเห็น