วันอังคารที่ 16 ตุลาคม พ.ศ. 2550

NDS ของฉัน... [photo]

ขึ้นต้นเหมือนเรียงความ เพราะนึกชื่อไม่ออก

จาก entry คราวก่อน ที่ทำเหมือนจะลึกลับ

ภารกิจลับ... [photo]

แต่ภาพสุดท้าย ดัน spoil ตัวเองซะงั้น... ฮ่าๆๆ

.

นั่นล่ะครับ สรุปคือผมซื้อ Nintendo DS มาแล้ว

แถมมีคนรู้ร้านอีกต่างหาก ทายกันซะอย่างกับรายการแฟนพันธุ์แท้
ผมซื้อมาจาก G-Corner ถูกต้องนะคร๊าบบบ... (มุกเห่ยมาก)

http://www.gcorners.com/

ก็ไม่รู้จะซื้อที่ไหนล่ะครับ เพื่อนเคยบอก
เปิดเว็บดู ราคาก็ถูกกว่าที่อื่นอยู๋

ผมไปถามที่สยาม เจอราคา 8,700 ได้แค่เครื่องกับตลับ R4 + MicroSD 2 GB

FYI: R4 คือตลับที่ใช้เล่น Rom หรืออีกนัยคือเกมส์ที่โหลดมาครับhttp://www.r4ds.com/index-en.htm

แต่ที่ร้านนี้ ราคา 7,200 ได้ครบ
ทั้งเครื่อง, ตลับ R4, MicroSD 1 GB, ฟิล์มกันจอ

แต่ผมโลภมาก เอา MicroSD 2 GB ไปเลย
แล้วก็ซื้อกระเป๋าใส่ด้วย เผื่อจะใช้เวลาไปไหนมาไหน

รวมราคา 7,950 บาท

เลือกสีดำ เพราะไม่กล้าใช้สีชมพู... ^^"

ร้านอัดเกมมาให้อย่างเยอะ กำลังลองเล่นไปเรื่อยๆครับ
และผมก็โหลดมาเองราวๆ 300 เกม แล้ว... หุหุ

ไว้จะมาเขียนถึงว่าผมประทับใจเกมไหน...

.

พูดถึงเจ้าเครื่องนี้หน่อย

หลังจากได้ลองเล่น ก็ไม่นึกเสียใจที่ซื้อมาเลยครับ
เกมเป็นเกม ยอมรับว่าสนุกจริงๆ สร้างสรรค์มากๆ รู้งี้ซื้อนานแล้ว

และก็เป็นเครื่องที่ผมสัญญากับตัวเองด้วยว่า
จะเริ่มเก็บเงินเสียที จะไม่ซื้ออะไรที่ไม่จำเป็นอีกแล้ว

มันจะเป็น Gadget ชิ้นสุดท้ายที่ผมจะซื้อ
ส่วนอย่างอื่น จะซื้อใหม่ ก็ต่อเมื่อของเก่าพังเท่านั้น

แน่นอนครับ จะไม่แกล้งทำพังด้วย -_-"

ต่อไปถ้าเห็นผมบ่นว่าอยากได้อะไรอีก
ก็ถือว่ารู้กันนะครับว่า "อยากได้ แต่ไม่ซื้อ"

เพื่ออนาคตครับ ;)

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

เชิญแสดงความคิดเห็น

15 ตัวอย่างการตลาดที่ผิดพลาดของแบรนด์ใหญ่

1. Hoover: โปรโมชั่น "บินฟรี" ที่ล้มเหลว (1992) ที่มา: Hoover ต้องการกระตุ้นยอดขายเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ตกต่ำในยุโรป จึงเสนอโปรโมชั่น ...