วันพุธที่ 12 มีนาคม พ.ศ. 2568

ปัญหาเชิงโครงสร้างและความไม่เป็นธรรมของระบบประกันสังคมไทย

ระบบประกันสังคมของไทยเป็นกลไกที่รัฐสร้างขึ้นเพื่อดูแลประชาชนที่เป็นแรงงานในระบบ แต่ที่ผ่านมามีปัญหาเชิงโครงสร้างที่ทำให้เกิดความรู้สึกไม่เป็นธรรมและความเหลื่อมล้ำกับระบบบัตรทอง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในประเด็นเรื่องผลประโยชน์ ความครอบคลุม และการบังคับจ่าย

1. ความไม่เป็นธรรมจากสูตรการคำนวณบำนาญ (เดิม)

สูตรเดิมของประกันสังคมในการคิดบำนาญชราภาพยึดจากเงินเดือนเฉลี่ย 60 เดือนสุดท้ายก่อนเกษียณ ส่งผลเสียต่อผู้ประกันตนที่รายได้สูงในช่วงต้นแต่ลดลงในช่วงท้าย เนื่องจากระบบจะคิดเฉลี่ยเฉพาะช่วงท้ายชีวิตการทำงาน (5 ปีสุดท้าย)

ตัวอย่างเปรียบเทียบสูตรเก่า (มาตรา 33 และ 39)

มาตรา 33:

  • นาย ก. มีค่าจ้างเฉลี่ย 60 เดือนสุดท้ายที่ 15,000 บาท ทำงานและส่งเงินสมทบรวม 25 ปี (300 เดือน)
  • บำนาญพื้นฐาน = 20% × 15,000 = 3,000 บาท
  • บำนาญเพิ่มเติมจากส่วนเกิน 15 ปี (10 ปี) = 1.5% × 10 ปี × 15,000 บาท = 2,250 บาท
  • บำนาญรวม = 3,000 + 2,250 = 5,250 บาทต่อเดือน

มาตรา 39:

  • ฐานเงินเดือนคงที่ 4,800 บาท
  • บำนาญพื้นฐาน = 20% × 4,800 = 960 บาท
  • บำนาญเพิ่มเติมจากการจ่ายเกิน 15 ปี (10 ปี) = 1.5% × 10 ปี × 4,800 บาท = 720 บาท
  • รวมบำนาญเก่า = 960 + 720 = 1,680 บาทต่อเดือน

2. ความเหลื่อมล้ำระหว่างประกันสังคมและบัตรทอง

แม้ผู้ประกันตนต้องจ่ายเงินสมทบรายเดือน แต่กลับได้รับสวัสดิการทางการแพทย์ที่ด้อยกว่าผู้ถือบัตรทองในหลายกรณี เช่น:

  • ประกันสังคมจำกัดโรงพยาบาลที่รักษา บัตรทองเลือกรับบริการได้หลากหลายกว่า
  • ยาบางชนิดและการรักษาบางประเภท บัตรทองครอบคลุม แต่ประกันสังคมไม่ครอบคลุม

3. การบังคับจ่ายสมทบ แต่ได้รับผลตอบแทนน้อย

ผู้ประกันตนถูกบังคับจ่ายทุกเดือน แต่ผลตอบแทนทั้งการรักษาและบำนาญชราภาพกลับไม่คุ้มค่าเมื่อเปรียบเทียบกับเงินที่จ่ายไป

4. การเปลี่ยนแปลงสูตรใหม่ (CARE) และผลกระทบ

ล่าสุดมีการปรับเปลี่ยนสูตรเป็นแบบ CARE ซึ่งใช้รายได้เฉลี่ยตลอดอายุการทำงานและปรับตามอัตราเงินเฟ้อ

ตัวอย่างเปรียบเทียบสูตรเก่าและสูตรใหม่

  • ผู้ประกันตนส่งเงินสมทบมาตรา 33 มา 15 ปี มาตรา 39 อีก 10 ปี

สูตรเก่า (มาตรา 33):

  • รวมบำนาญเก่า = 5,250 บาทต่อเดือน

สูตรใหม่ (CARE - มาตรา 33):

  • สมมุติรายได้เฉลี่ยตลอดชีวิตปรับเงินเฟ้อแล้ว 15,000 บาท
  • บำนาญพื้นฐาน = 20% + (1.5% × 10 ปีส่วนที่เกิน 15 ปี) = 35%
  • รวมบำนาญใหม่ = 35% × 15,000 = 5,250 บาทต่อเดือน

สูตรเก่า (มาตรา 39):

  • รวมบำนาญเก่า = 1,680 บาทต่อเดือน

สูตรใหม่ (CARE - มาตรา 39):

  • คำนวณรายได้เฉลี่ยทั้งชีวิต (ปรับค่าเงินเฟ้อแล้ว) สมมุติเป็น 12,000 บาท
  • บำนาญพื้นฐาน = 20% + (1.5% × 10 ปีส่วนที่เกิน 15 ปี) = 35%
  • รวมบำนาญใหม่ = 35% × 12,000 = 4,200 บาทต่อเดือน

4. ประกันสังคมก้าวหน้า (Progressive Social Security)

ทีมประกันสังคมก้าวหน้าเกิดขึ้นจากคณะก้าวหน้าเพื่อปฏิรูประบบประกันสังคม โดยเสนอนโยบายหลัก 14 ข้อ เช่น

  1. เพิ่มค่าคลอดบุตรเป็น 20,000 บาทต่อครั้ง ลาคลอด 180 วัน
  2. ช่วยค่าเลี้ยงดูบุตรอายุ 7-12 ปี 7,200 บาท/ปี
  3. เพิ่มค่าสงเคราะห์เด็ก 0-6 ปี เป็น 1,000 บาท/เดือน
  4. สินเชื่อที่อยู่อาศัย 5 ล้านบาท ดอกเบี้ยไม่เกิน 2%
  5. พัฒนาสิทธิการรักษา ไม่ต้องสำรองจ่าย
  6. ชดเชยการลาเพื่อดูแลครอบครัว วันละ 300 บาท สูงสุด 1,500 บาท/ปี
  7. ขยายสิทธิประโยชน์คนพิการให้รักษาได้ทุกที่
  8. ประกันสังคมถ้วนหน้า
  9. ปรับการบริหารกองทุนให้โปร่งใส ตรวจสอบได้
  10. ผลักดันประกันสังคมเป็นองค์กรอิสระ

4. ปัญหาการบังคับจ่าย

ประกันสังคมบังคับจ่าย แต่ไม่สามารถเลือกบริการที่เหมาะสมหรือเปลี่ยนแปลงสิทธิประโยชน์ตามความต้องการของแต่ละบุคคล

5. เปรียบเทียบสิทธิประโยชน์กับบัตรทอง

  • บัตรทองเลือกสถานพยาบาลได้หลากหลายกว่าประกันสังคม
  • บัตรทองไม่ต้องจ่ายเงินสมทบรายเดือน แต่ได้รับสิทธิประโยชน์พื้นฐานที่ใกล้เคียงหรือดีกว่าในหลายกรณี

สรุปปัญหาเชิงโครงสร้างและแนวทางแก้ไข

การปรับปรุงระบบประกันสังคมด้วยสูตร CARE และนโยบายจากทีมประกันสังคมก้าวหน้าจะช่วยให้ระบบมีความยุติธรรม โปร่งใส และตรงกับความต้องการของผู้ประกันตนมากขึ้น

ข้อพิพาททางธุรกิจระหว่าง QCP (มหากิจศิริ) และ Nestlé กับกรณีศึกษาเปรียบเทียบ

บทนำ กรณีพิพาททางธุรกิจระหว่างบริษัท ควอลิตี้ คอฟฟี่ โปรดักท์ส จำกัด (QCP) ซึ่งเป็นบริษัทภายใต้กลุ่มทุนมหากิจศิริ กับบริษัท Nestlé ผู้ถือครอ...