วันเสาร์ที่ 22 มีนาคม พ.ศ. 2568

มะเร็งคืออะไร

ไขความลับมะเร็ง : ทำไมเราจึงเป็นมะเร็ง?

ปรากฏการณ์ที่เซลล์ปกติของร่างกายกลายร่างเป็น "ศัตรูจากภายใน" จนยากจะควบคุม คือสิ่งที่เรียกว่า "มะเร็ง" แต่เรารู้จักมันดีแค่ไหน? และเราจะเข้าใจมันให้ลึกกว่านี้ได้ไหม? บทความนี้เป็นตอนแรกในซีรีส์สองตอนว่าด้วยมะเร็ง ตั้งแต่สาเหตุจนถึงความก้าวหน้าล่าสุดในการรักษา


สาเหตุรวม: มะเร็งเกิดจากอะไร?

การที่เซลล์ปกติกลายเป็นมะเร็ง มักเริ่มจาก "การกลายพันธุ์" (mutation) ของสารพันธุกรรม (DNA) ซึ่งควบคุมการเจริญเติบโตและพฤติกรรมของเซลล์

สาเหตุหลัก:

  • สารก่อมะเร็ง (Carcinogens): ควันบุหรี่, เบนซีน, สารเคมีอุตสาหกรรม
  • รังสี: รังสี UV จากแสงแดด, รังสีเอกซเรย์
  • ไวรัสบางชนิด: เช่น HPV (มะเร็งปากมดลูก), HBV/HCV (มะเร็งตับ)
  • ความผิดพลาดระหว่างการแบ่งตัวของเซลล์: ซึ่งเกิดขึ้นตามธรรมชาติ
  • กรรมพันธุ์: ยีนที่ถ่ายทอดมาจากพ่อแม่ เช่น BRCA1/2

การกลายพันธุ์เพียงจุดเดียวอาจยังไม่เพียงพอ แต่เมื่อสะสมหลายจุดในยีนสำคัญ ก็เพิ่มโอกาสในการพัฒนาเป็นมะเร็ง


ยีนที่เกี่ยวกับมะเร็ง

  1. Proto-oncogene → กลายเป็น Oncogene

    • ยีนกระตุ้นการเจริญเติบโตของเซลล์ เมื่อกลายพันธุ์จะทำให้เซลล์เติบโตและแบ่งตัวเร็วเกินควบคุม เช่น RAS, HER2
  2. Tumor Suppressor Gene

    • ยีนที่ทำหน้าที่เป็น “เบรก” ของเซลล์ เช่น p53, BRCA1/2 หากเสียหายจะทำให้เซลล์ไม่มีระบบหยุดการแบ่งตัวหรือซ่อมแซม DNA ได้

มะเร็งมักเกิดจากการสูญเสียการควบคุมทั้งสองกลุ่มยีนนี้พร้อมกัน


เซลล์มะเร็งต่างจากเซลล์ปกติอย่างไร?

คุณสมบัติ เซลล์ปกติ เซลล์มะเร็ง
การแบ่งตัว มีขีดจำกัด แบ่งตัวไม่หยุด
การยึดเกาะ อยู่ในตำแหน่งเฉพาะ หลุดออกไปลุกลามได้
อายุขัย มีการตายตามวงจร อยู่รอดนานผิดปกติ
การตรวจจับโดยภูมิคุ้มกัน ถูกกำจัดเมื่อผิดปกติ หลบเลี่ยงหรือต้านภูมิคุ้มกันได้

การลุกลาม: มะเร็งไม่หยุดอยู่ที่เดิม

  1. Local Invasion – บุกรุกเนื้อเยื่อรอบข้าง
  2. Intravasation – เซลล์มะเร็งแทรกตัวเข้าสู่หลอดเลือดหรือน้ำเหลือง
  3. Circulation – เดินทางในกระแสเลือดหรือน้ำเหลือง
  4. Extravasation – ออกจากหลอดเลือดและเข้าไปฝังตัวในเนื้อเยื่อใหม่
  5. Colonization – ตั้งรกรากและก่อตัวเป็นก้อนมะเร็งทุติยภูมิในอวัยวะอื่น

กระบวนการนี้เรียกรวมว่า “metastasis” และเป็นสาเหตุสำคัญของการเสียชีวิตจากมะเร็ง


สรุป

มะเร็งเกิดจากการกลายพันธุ์ของยีนที่ควบคุมการแบ่งตัวและความอยู่รอดของเซลล์ เมื่อเกิดการกลายพันธุ์ซ้ำซ้อนและระบบภูมิคุ้มกันไม่สามารถกำจัดเซลล์ผิดปกติได้ เซลล์นั้นก็จะเติบโตเป็นก้อนมะเร็งและอาจแพร่กระจายไปยังอวัยวะอื่น

ในตอนต่อไป เราจะลงลึกถึงการที่มะเร็งสร้าง "สภาพแวดล้อมของตัวเอง" เพื่อเอาตัวรอด และวิธีที่การแพทย์สมัยใหม่เริ่มพลิกเกมกลับมาโจมตีมันด้วยความรู้ที่แม่นยำมากขึ้น

เข้าใจศัตรูเงียบ และแนวทางการรักษายุคใหม่

จากตอนที่แล้วซึ่งเราทำความเข้าใจว่ามะเร็งเกิดขึ้นได้อย่างไร ตอนนี้เราจะเจาะลึกต่อไปถึงระบบที่ซับซ้อนของมะเร็งในระดับจุลภาค ไปจนถึงนวัตกรรมล้ำสมัยที่ใช้ต่อกรกับโรคนี้ในปัจจุบัน


1. Tumor Microenvironment (TME): สภาพแวดล้อมที่เลี้ยงดูมะเร็ง

ก้อนมะเร็งไม่ได้ประกอบด้วยเซลล์มะเร็งเพียงอย่างเดียว แต่ยังมีเซลล์อื่น ๆ ที่เรียกว่า "Stromal cells" และองค์ประกอบที่ไม่ใช่เซลล์ (extracellular matrix) ซึ่งรวมกันเป็น "สภาพแวดล้อมจุลภาคของมะเร็ง (TME)"

องค์ประกอบของ TME:

  • Cancer-associated fibroblasts (CAFs): สร้างพังผืดและสารเคมีที่ช่วยให้มะเร็งเติบโต
  • Immune cells (Tregs, M2 macrophages): ถูกชักจูงให้หยุดการโจมตีเซลล์มะเร็ง
  • Endothelial cells: สร้างเส้นเลือดใหม่ให้ก้อนมะเร็งผ่านกระบวนการ angiogenesis
  • Exosomes: ถุงโปรตีนและ RNA ที่เซลล์มะเร็งปล่อยออกไปควบคุมเซลล์รอบข้าง

TME คือระบบนิเวศที่มะเร็งสร้างขึ้นเพื่อเอาชนะกลไกป้องกันของร่างกายและตอบสนองต่อสภาพแวดล้อมที่ไม่เอื้ออำนวย เช่น การขาดออกซิเจน (hypoxia)


2. Cancer Stem Cells (CSCs): ต้นกำเนิดที่ซ่อนอยู่

CSC คือกลุ่มย่อยของเซลล์มะเร็งที่มีคุณสมบัติเหมือน stem cell ได้แก่:

  • Self-renewal: แบ่งตัวได้อย่างไม่จำกัด
  • Differentiation: กลายเป็นเซลล์มะเร็งชนิดต่าง ๆ ได้
  • Drug resistance: มีความต้านทานต่อเคมีบำบัดและรังสีบำบัด เนื่องจากอยู่ในระยะพักตัว (quiescent phase) หรือมีโปรตีนกำจัดยา (เช่น ABC transporters)

CSC เชื่อมโยงกับการดื้อยาและการกลับมาใหม่ของโรคมะเร็ง แม้หลังการรักษาที่ประสบผล


3. Immune Escape: เมื่อภูมิคุ้มกันถูกหลอก

เซลล์มะเร็งพัฒนากลไกต่าง ๆ เพื่อหลบเลี่ยงระบบภูมิคุ้มกัน:

  • Downregulation of MHC class I: ลดการแสดงโปรตีนบนผิวเซลล์ ทำให้ T-cell ตรวจไม่พบ
  • Expression of PD-L1: จับกับตัวรับ PD-1 บน T-cell ทำให้ T-cell หยุดทำงาน
  • Secretion of immunosuppressive cytokines: เช่น IL-10, TGF-β เพื่อยับยั้งการตอบสนองของภูมิคุ้มกัน

Immune Checkpoint Inhibitors (ICIs):

  • ปลดล็อกระบบภูมิคุ้มกัน เช่น ยา nivolumab (anti-PD-1), atezolizumab (anti-PD-L1)
  • เหมาะกับมะเร็งบางชนิด เช่น มะเร็งปอด มะเร็งไต มะเร็งผิวหนังชนิด melanoma

การตอบสนองต่อ ICIs ยังไม่ครอบคลุมผู้ป่วยทุกคน การวิจัยกำลังพัฒนา "biomarkers" เพื่อคัดเลือกผู้ที่ตอบสนองได้ดี


4. Epigenetics: กลไกควบคุมยีนที่เปลี่ยนได้

Epigenetics ไม่ได้เปลี่ยนลำดับยีน (DNA sequence) แต่เปลี่ยนการแสดงออกของยีนผ่านกระบวนการเช่น:

  • DNA methylation: ปิดยีนต้านมะเร็ง เช่น p16, MLH1
  • Histone modification: ส่งผลให้โครงสร้างโครมาตินแน่นขึ้นหรือคลายตัว ทำให้ยีนเปิดหรือปิดการทำงาน
  • miRNA dysregulation: microRNA ควบคุมการแปลรหัสโปรตีนผิดปกติ

Epigenetic Therapy:

  • ยาที่เปิดยีนต้านมะเร็ง: azacitidine (DNMT inhibitor), vorinostat (HDAC inhibitor)
  • อยู่ระหว่างการทดลองทางคลินิกในหลายชนิดของมะเร็ง

5. Personalized mRNA Cancer Vaccine: ความหวังใหม่ที่ออกแบบเฉพาะบุคคล

แนวคิดคือการวิเคราะห์ DNA/RNA ของมะเร็งแต่ละบุคคล แล้วสร้างวัคซีนที่กระตุ้นระบบภูมิคุ้มกันให้โจมตีโปรตีนเฉพาะของเซลล์มะเร็งนั้น ๆ

ขั้นตอน:

  1. เก็บตัวอย่างเนื้อมะเร็ง
  2. วิเคราะห์ "Neoantigens" ที่เกิดจากการกลายพันธุ์เฉพาะบุคคล
  3. สร้าง mRNA vaccine ให้ภูมิคุ้มกันรับรู้และโจมตีได้เฉพาะเจาะจง

BioNTech และ Moderna กำลังทดลองวัคซีนลักษณะนี้ในมะเร็งผิวหนังและตับอ่อน ซึ่งแสดงให้เห็นการลดโอกาสกลับเป็นซ้ำได้


6. สรุปการรักษามะเร็งสมัยใหม่แบบเจาะจง

ประเภท กลไกหลัก จุดเด่น ข้อจำกัด
เคมีบำบัด ฆ่าเซลล์แบ่งตัวเร็ว ใช้ได้หลากหลายชนิด ผลข้างเคียงสูง, ไม่จำเพาะ
ฉายแสง ทำลาย DNA ด้วยรังสี ใช้ควบคู่กับการผ่าตัด จำกัดพื้นที่ฉาย
Targeted Therapy จับโปรตีนเฉพาะของเซลล์มะเร็ง เจาะจง ลดผลข้างเคียง ต้องมี target ที่ตรวจพบ
Immunotherapy กระตุ้น T-cell ให้ทำงาน มีผลระยะยาวในบางคน ไม่ได้ผลในผู้ป่วยทุกคน
Epigenetic Therapy ปรับระดับการแสดงยีน กลับเปิดยีนต้านมะเร็ง ยังอยู่ระหว่างวิจัย
mRNA Vaccine สร้างภูมิคุ้มกันเฉพาะบุคคล ปรับเฉพาะคนได้ ราคาสูง และใช้เวลาผลิต
Cell Therapy (CAR-T) ใช้ T-cell ดัดแปลงโจมตีมะเร็ง ประสิทธิภาพสูงมาก ใช้เฉพาะโรคและมีค่าใช้จ่ายสูง

สรุปท้ายบท

มะเร็งไม่ใช่โรคที่เกิดจากปัจจัยเดียวอีกต่อไป แต่เป็นผลลัพธ์จากการเปลี่ยนแปลงหลายชั้น ทั้งทางพันธุกรรม สภาพแวดล้อม และภูมิคุ้มกัน โดยเฉพาะ TME และ CSC ที่ซ่อนตัวอยู่ลึกเกินกว่าเราจะมองเห็นได้ด้วยกล้องจุลทรรศน์ทั่วไป

ความหวังใหม่ของเราคือเทคโนโลยีที่เข้าใจระดับเซลล์และยีนอย่างลึกซึ้ง และออกแบบการรักษาเฉพาะบุคคลได้อย่างแม่นยำมากขึ้น

“เมื่อเราเข้าใจศัตรูได้ลึกเพียงพอ การต่อสู้ก็จะไม่ใช่แค่เรื่องของโชคอีกต่อไป”

ข้อพิพาททางธุรกิจระหว่าง QCP (มหากิจศิริ) และ Nestlé กับกรณีศึกษาเปรียบเทียบ

บทนำ กรณีพิพาททางธุรกิจระหว่างบริษัท ควอลิตี้ คอฟฟี่ โปรดักท์ส จำกัด (QCP) ซึ่งเป็นบริษัทภายใต้กลุ่มทุนมหากิจศิริ กับบริษัท Nestlé ผู้ถือครอ...