วันเสาร์ที่ 29 มีนาคม พ.ศ. 2568

เมื่อแผ่นดินไหวสะเทือนถึงใจญี่ปุ่น: เกร็ดปฏิกิริยาและมุมมองน่ารักจากดินแดนอาทิตย์อุทัย

ช่วงวันที่ 28 มีนาคม 2568 ที่ผ่านมา เกิดแผ่นดินไหวขนาดใหญ่จากประเทศเมียนมา ซึ่งแรงสั่นสะเทือนรับรู้ได้ชัดเจนในหลายพื้นที่ของไทย โดยเฉพาะในกรุงเทพฯ เหตุการณ์ครั้งนี้กลายเป็นที่พูดถึงในโซเชียลของญี่ปุ่นอย่างคึกคัก โดยเฉพาะบนแพลตฟอร์ม X (Twitter เดิม) ซึ่งมีทั้งความห่วงใย ประหลาดใจ และ...หัวใจที่อ่อนโยน

บทความนี้ขอพาทุกคนไปรู้จักมุมมองของชาวญี่ปุ่นต่อประเทศไทยในยามเผชิญกับภัยธรรมชาติ ว่าในความต่างของวัฒนธรรม มีเรื่องน่ารักอะไรซ่อนอยู่บ้าง

1. คนไทยใจนิ่งเกินต้าน

สิ่งแรกที่ชาวญี่ปุ่นหลายคนสังเกต คือ "คนไทยไม่ค่อยตื่นตระหนก" ทั้งที่ตึกสั่นแรง มีคนโพสต์ว่า "ตอนที่ผมนั่งอยู่คอนโดชั้น 10 ในกรุงเทพฯ รู้สึกเหมือนเวียนหัว จนเห็นโคมไฟแกว่งถึงรู้ว่าแผ่นดินไหว... แต่คนไทยยังนั่งกินข้าวอยู่เลย!" บางคนก็บอกว่าเห็นคนยืนดูน้ำในสระว่ายน้ำกระเพื่อมแบบชิล ๆ

ในขณะที่ที่ญี่ปุ่น การสั่นระดับนี้ถือว่าสัญญาณอันตรายและควรรีบอพยพ ชาวญี่ปุ่นจึงรู้สึกทั้งงง ทั้งเอ็นดู ว่า... คนไทยใจเย็นเกินไปแล้ว!

2. ตื่นเต้นกับวัฒนธรรม "ตลกในยามวิกฤต"

หลายคนขำกลิ้งเมื่อเห็นโพสต์ของคนไทยที่บอกว่า "นึกว่าช้างเดินผ่าน" หรือ "นึกว่าเมาค้าง" หลังรู้ว่าเป็นแผ่นดินไหว ชาวญี่ปุ่นบางคนบอกว่า "ทำไมเพิ่งเจอเหตุการณ์แบบนี้ถึงยังหัวเราะได้?"

นี่คือสิ่งที่พวกเขามองว่า "แปลกแต่น่ารัก" และแตกต่างจากความซีเรียสแบบญี่ปุ่นที่มักให้ความเคารพกับภัยธรรมชาติแบบจริงจัง

3. สงบ สง่างาม และมีน้ำใจ

ในอีกมุมหนึ่ง ชาวญี่ปุ่นจำนวนไม่น้อยประทับใจในความเป็นระเบียบของคนไทยตอนอพยพ "ไม่มีใครตะโกน ไม่มีใครผลักกัน ทุกคนเดินลงมาช้า ๆ อย่างมีมารยาท" และยังเห็นภาพคนไทยช่วยพยุงคนแก่ อุ้มเด็ก ดูแลกันโดยไม่ต้องมีใครสั่ง

“คนไทยใจดีจริง ๆ” คือคำพูดที่ปรากฏในหลายโพสต์

4. พฤติกรรมบางอย่างที่คนญี่ปุ่นมองว่า "เอ๊ะ!?"

แน่นอนว่ามีบางพฤติกรรมที่ดูแปลกในสายตาญี่ปุ่น เช่น:

  • ถ่ายคลิปจากระเบียงตอนแผ่นดินไหวแทนที่จะรีบลง

  • แต่งตัวนอน (ชุดการ์ตูน ผ้าขนหนู) ลงมาอพยพ

  • ไม่มีการวิ่งหนี แต่ยืนรอดูว่ามีอะไรจะเกิดขึ้นต่อ

  • บางคนจุดธูปไหว้เจ้าที่ทันทีหลังเหตุการณ์

พฤติกรรมเหล่านี้ทำให้ชาวญี่ปุ่นสังเกตว่า ไทยเป็นประเทศที่มีส่วนผสมของความ "ไม่รีบร้อน" และ "ศรัทธา" ที่แตกต่างจากการรับมือด้วยความเคร่งครัดของญี่ปุ่น

5. ไม่มีระบบเตือน? ไม่เป็นไร... คนไทยบอกเอง

อีกจุดที่ชาวญี่ปุ่นรู้สึกงงคือ "ไม่มีการเตือนล่วงหน้าในมือถือ?" เพราะที่ญี่ปุ่นระบบนี้เป็นสิ่งที่ทุกคนคุ้นเคยดี แต่คนไทยดูเหมือนจะรับรู้สถานการณ์จากการสั่นและจากเพื่อนบ้านมากกว่า

แต่แม้จะไม่มีเสียงเตือน ชาวญี่ปุ่นก็ยังชื่นชมว่า คนไทยทำตามคำแนะนำอย่างสงบ และไม่แพนิก

6. ความน่ารักในรายละเอียดเล็ก ๆ

  • มีคนไทยพูดว่า "แผ่นดินสะเทือน" แทนคำว่าแผ่นดินไหว → ชาวญี่ปุ่นมองว่าเป็นคำที่ฟังดูนุ่มนวลและน่ารัก

  • บางคนบอกว่า "ตอนแรกคิดว่าเครื่องซักผ้าปั่นแรงไปหน่อย จนรู้ว่าไม่ใช่..." → ชาวญี่ปุ่นบอกว่าวิธีคิดแบบนี้ช่วยลดความตึงเครียดได้อย่างน่าอัศจรรย์

  • และที่ขำที่สุดคือ "วิ่งลงมาจากตึกพร้อมผ้าขนหนูลายหมีพูห์" → คนญี่ปุ่นถึงกับบอกว่า "นี่แหละเสน่ห์ของไทยที่ไม่มีในประเทศอื่น"

7. เสน่ห์ของไทยในสายตาญี่ปุ่น

เมื่อรวมทุกอย่างเข้าด้วยกัน สิ่งที่ชาวญี่ปุ่นรู้สึกคือ... ประเทศไทยอาจยังไม่มีระบบป้องกันแผ่นดินไหวที่ซับซ้อน แต่มีหัวใจของผู้คนที่สงบ เย็น ยิ้มง่าย และช่วยเหลือกัน ซึ่งบางครั้งอาจมีค่ามากกว่าระบบ

"แผ่นดินไหวทำให้เราสะเทือนใจ... แต่คนไทยทำให้เรายิ้มได้"


ประเทศไทยกับญี่ปุ่นแม้จะต่างกันทั้งวัฒนธรรมและความพร้อม แต่การที่คนจากสองฝั่งโลกนี้เข้าใจและชื่นชมกันในวันที่เกิดภัยพิบัติ เป็นสิ่งที่พิสูจน์ว่า "ความสัมพันธ์ที่ดีเกิดขึ้นได้แม้ในเวลาที่พื้นดินสั่นไหว"

และในสายตาของชาวญี่ปุ่น... คนไทยอาจไม่ได้เพียงแค่ยืนหยัด แต่ยังยืนยิ้มได้อย่างน่าเอ็นดูอีกด้วย

ข้อพิพาททางธุรกิจระหว่าง QCP (มหากิจศิริ) และ Nestlé กับกรณีศึกษาเปรียบเทียบ

บทนำ กรณีพิพาททางธุรกิจระหว่างบริษัท ควอลิตี้ คอฟฟี่ โปรดักท์ส จำกัด (QCP) ซึ่งเป็นบริษัทภายใต้กลุ่มทุนมหากิจศิริ กับบริษัท Nestlé ผู้ถือครอ...