วันอาทิตย์ที่ 2 มีนาคม พ.ศ. 2568

"ยุติสงคราม" กับความเป็นจริงของยูเครน: หยุดสู้หรือยอมแพ้?

ช่วงนี้กระแสการเรียกร้องให้ "ยูเครนยุติสงคราม" เริ่มดังขึ้นอีกครั้ง โดยเฉพาะหลังจากที่ โดนัลด์ ทรัมป์ กลับมาเป็นประธานาธิบดีสหรัฐฯ และมีท่าทีที่ไม่เป็นกลางต่อสงครามรัสเซีย-ยูเครน หลายคนบอกว่ายูเครนควร "หยุดสู้" หรือ "หันมาเจรจา" เพื่อให้สงครามจบลง แต่คำถามที่แท้จริงคือ ยูเครนสามารถยุติสงครามได้อย่างไร โดยที่ยังรักษาอธิปไตยของตัวเองอยู่?


"ยุติสงคราม" หมายถึงอะไรในความเป็นจริง?

ถ้าดูจากสถานการณ์ปัจจุบัน คำว่า "ยุติสงคราม" ที่หลายคนพูดถึง ไม่ได้หมายถึงรัสเซียถอนตัว แต่หมายถึง ยูเครนต้องหยุดสู้เอง ซึ่งในทางปฏิบัติ ยูเครนมีแค่ 3 ทางเลือกใหญ่ ๆ

  1. สู้ต่อไป – หวังให้ตะวันตกสนับสนุนอาวุธและเงินเพียงพอที่จะยันรัสเซียได้
  2. เจรจาสันติภาพ – ซึ่งตอนนี้หมายถึง ยอมเสียดินแดน ที่รัสเซียยึดไปแล้ว (ไครเมีย, โดเนตสก์, ลูฮานสก์ ฯลฯ)
  3. ยอมแพ้โดยสิ้นเชิง – ซึ่งอาจรวมถึงการตั้งรัฐบาลที่ต้องฟังคำสั่งจากรัสเซีย

ในขณะที่บางคนบอกให้ "ยูเครนหยุดสู้เพื่อสันติภาพ" แต่ความจริงแล้ว การหยุดสู้ตอนนี้คือการยอมแพ้ และให้รัสเซียกำหนดเงื่อนไขทั้งหมด


ทำไมต้องบอกให้รัสเซียหยุด ไม่ใช่ยูเครน?

คนที่บอกให้ยูเครนยุติสงครามควรถามตัวเองว่า "สงครามนี้ใครเป็นฝ่ายเริ่ม?"

  • รัสเซียบุกยูเครนตั้งแต่ปี 2014 และเปิดฉากสงครามเต็มรูปแบบในปี 2022
  • ยูเครนไม่ได้เป็นฝ่ายรุกราน พวกเขาแค่ปกป้องประเทศของตัวเอง
  • รัสเซียเป็นฝ่ายที่สามารถหยุดสงครามได้ตลอดเวลา แค่ถอนทหาร ทุกอย่างก็จบ

แต่สิ่งที่เกิดขึ้นคือ บางคนไปกดดันเหยื่อ (ยูเครน) ให้เลิกสู้ แทนที่จะกดดันผู้รุกราน (รัสเซีย) ให้หยุดบุกรุก


ทรัมป์และท่าทีที่ไม่เป็นกลาง

เมื่อเร็ว ๆ นี้ ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้พบกับ ประธานาธิบดีโวโลดิเมียร์ เซเลนสกี แห่งยูเครนที่ทำเนียบขาว และกลายเป็น การปะทะคารมรุนแรง

  • ทรัมป์กล่าวหาว่า "เซเลนสกีเดิมพันกับสงครามโลกครั้งที่ 3"
  • การเจรจาสันติภาพล้มเหลว และ เซเลนสกีถูกเชิญให้ออกจากทำเนียบขาว
  • ทรัมป์ยังมีแนวคิดว่า "สามารถยุติสงครามได้ใน 24 ชั่วโมง" ซึ่งหลายฝ่ายมองว่าเป็นแผนกดดันให้ยูเครนยอมแพ้

ล่าสุด มีรายงานว่า สหรัฐฯ และรัสเซียกำลังเจรจาเรื่องยูเครนโดยไม่มีตัวแทนจากยูเครนเข้าร่วม ซึ่งทำให้หลายฝ่ายกังวลว่า ทรัมป์อาจพยายาม "บีบ" ยูเครนให้รับเงื่อนไขที่เป็นประโยชน์ต่อรัสเซีย


ทรัมป์ฝักใฝ่รัสเซียจริงหรือ?

นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ทรัมป์ถูกตั้งคำถามว่า เขาเข้าข้างรัสเซียมากเกินไปหรือไม่

  • พูดชื่นชมปูตินหลายครั้ง เช่น บอกว่าปูตินเป็น "ผู้นำที่แข็งแกร่ง"
  • ขู่ว่าจะถอนสหรัฐฯ ออกจาก NATO ซึ่งเป็นสิ่งที่รัสเซียต้องการมากที่สุด
  • เคยถูกสอบสวนว่าได้รับการช่วยเหลือจากรัสเซียในการเลือกตั้งปี 2016
  • พยายามลดความช่วยเหลือยูเครน และอาจกดดันให้ยูเครนยอมแพ้

ถ้าทรัมป์กลับมาเป็นประธานาธิบดีต่อไป รัสเซียอาจได้เปรียบในสงครามนี้ และยูเครนอาจถูกบังคับให้เจรจาแบบเสียเปรียบ


ข้อโต้แย้งจากฝั่งที่อยากให้ยูเครน "หยุดสู้"

มีหลายกลุ่มที่บอกว่ายูเครนควร "ยุติสงคราม" แต่ข้อโต้แย้งของพวกเขามักมีปัญหา เช่น

  • "สู้ไปก็แพ้ ทำไมไม่เจรจา?"
    → แล้วรัสเซียเคยแสดงความจริงใจในการเจรจาหรือไม่? หรือแค่ใช้การเจรจาเป็นข้ออ้างเพื่อเตรียมบุกต่อ?
  • "สงครามทำให้ประชาชนเดือดร้อน"
    → ใช่ แต่คนที่ทำให้เดือดร้อนคือ รัสเซียที่บุก ยูเครนแค่ป้องกันตัวเอง
  • "นาโต้กับอเมริกาทำให้สงครามยืดเยื้อ"
    → ถ้ารัสเซียไม่บุก นาโต้ไม่ต้องช่วยยูเครนตั้งแต่แรก เรื่องมันจบตั้งแต่ต้น

ทางออกที่ถูกต้องคืออะไร?

การยุติสงครามที่ถูกต้องควรเป็นแบบนี้

  1. รัสเซียต้องหยุดบุกรุกและถอนทหาร
  2. ยูเครนต้องได้รับการสนับสนุนเพื่อป้องกันตัวเอง
  3. รัสเซียต้องรับผิดชอบความเสียหายที่ก่อขึ้น

ถ้าสงครามจะจบลงโดยที่ยูเครนยังคงอธิปไตยอยู่ มันต้องจบด้วย รัสเซียล้มเหลว ไม่ใช่ยูเครนยอมแพ้


สรุป: ใครกันแน่ที่ควรหยุด?

การบอกให้ ยูเครน "ยุติสงคราม" เท่ากับการบอกให้ยอมแพ้ เพราะไม่มีทางเลือกอื่นที่ไม่ทำให้เสียอธิปไตย

สิ่งที่ควรพูดคือ "รัสเซียต้องหยุดบุกรุก" ไม่ใช่ "ยูเครนต้องหยุดสู้"

ถ้าเราอยากเห็นสงครามจบลงอย่างถูกต้อง ต้องกดดันรัสเซีย ไม่ใช่กดดันยูเครน 🚨

ความเฮงซวยของระบบ "อาสา" แบบปลอม ๆ

บทนำ ระบบ "อาสา" ควรจะเป็นพื้นที่ของการเสียสละด้วยใจ เป็นการช่วยเหลือกันด้วยความหวังดี ไม่ใช่เครื่องมือที่ใช้บังคับคนให้ทำสิ่งที่...