ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา อิทธิพลทางเศรษฐกิจของจีนต่อประเทศไทยขยายตัวอย่างรวดเร็ว ตั้งแต่การค้า การลงทุน อสังหาริมทรัพย์ ไปจนถึงอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว ส่งผลให้เศรษฐกิจไทยมีการพึ่งพาจีนสูงขึ้นเรื่อย ๆ แต่ขณะเดียวกัน ก็เกิดคำถามสำคัญว่าการพึ่งพานี้จะนำไปสู่การเติบโตทางเศรษฐกิจ หรือกลายเป็นการสูญเสียอำนาจในการควบคุมทรัพยากรของไทยให้กับจีน
1. การค้ากับจีน: ไทยได้เปรียบหรือเสียเปรียบ
ไทยมีความสัมพันธ์ทางการค้ากับจีนมาอย่างยาวนาน โดยจีนเป็นคู่ค้าหลักของไทยทั้งในด้านการนำเข้าและส่งออก อย่างไรก็ตาม แม้ไทยจะส่งออกสินค้าไปจีนในปริมาณมาก แต่ในเชิงมูลค่า ไทยกลับอยู่ในสถานะเสียเปรียบ เนื่องจากสินค้าส่งออกส่วนใหญ่เป็นวัตถุดิบราคาถูก เช่น ยางพารา ข้าว ผลไม้ ขณะที่สินค้านำเข้าจากจีนเป็นสินค้าอุตสาหกรรมที่มีมูลค่าสูง เช่น เครื่องใช้ไฟฟ้า เครื่องจักร และอิเล็กทรอนิกส์ นอกจากนี้ การที่ไทยพึ่งพาการส่งออกไปจีนเป็นหลัก ทำให้เศรษฐกิจไทยเปราะบาง หากจีนมีปัญหาเศรษฐกิจหรือปรับนโยบายการค้า ย่อมส่งผลกระทบต่อไทยโดยตรง
2. การลงทุนจีนในไทย: การขยายตัวที่ควบคุมไม่ได้
ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา นักลงทุนจีนเข้ามาลงทุนในไทยอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า (EV) อสังหาริมทรัพย์ และโลจิสติกส์ ค่ายรถยนต์จีน เช่น BYD, MG และ GWM เริ่มมีบทบาทสำคัญในตลาดรถยนต์ไทย ขณะที่ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ของจีนเข้ามาซื้อที่ดินและคอนโดในเมืองสำคัญ ๆ อย่างกรุงเทพฯ พัทยา และเชียงใหม่ ปัญหาที่เกิดขึ้นคือ การลงทุนเหล่านี้ไม่ได้สร้างผลประโยชน์ต่อคนไทยมากเท่าที่ควร บริษัทจีนจำนวนมากยังคงใช้แรงงานจีนเป็นหลัก และเงินหมุนเวียนอยู่ในระบบของกลุ่มนักลงทุนจีนโดยไม่ได้กระจายสู่เศรษฐกิจไทยอย่างแท้จริง
3. อุตสาหกรรมท่องเที่ยว: ไทยพึ่งพานักท่องเที่ยวจีนมากเกินไปหรือไม่
จีนเป็นแหล่งนักท่องเที่ยวที่สำคัญของไทยมาหลายปี โดยเฉพาะในช่วงก่อนการแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่นักท่องเที่ยวจีนเป็นกลุ่มที่สร้างรายได้สูงสุดให้กับประเทศไทย อย่างไรก็ตาม ปัญหาของการพึ่งพานักท่องเที่ยวจีนมากเกินไปคือ เมื่อนโยบายของจีนเปลี่ยนไป หรือเมื่อเกิดเหตุการณ์ที่ทำให้จำนวนนักท่องเที่ยวลดลง เช่น การแพร่ระบาดของโรค ไทยจะได้รับผลกระทบอย่างหนัก นอกจากนี้ ยังมีปัญหาทัวร์ศูนย์เหรียญ ซึ่งเป็นธุรกิจที่ควบคุมโดยจีนและไม่ได้สร้างประโยชน์ต่อเศรษฐกิจไทยในระยะยาว
4. การเปลี่ยนแปลงเชิงโครงสร้างของเศรษฐกิจจีนและผลกระทบต่อไทย
จีนกำลังเผชิญปัญหาเศรษฐกิจภายใน เช่น การเติบโตทางเศรษฐกิจที่ชะลอตัว หนี้สินภาคอสังหาริมทรัพย์ และปัญหาการว่างงานของคนรุ่นใหม่ ทำให้จีนต้องหาทางระบายปัญหาออกไปภายนอก ซึ่งไทยเป็นหนึ่งในเป้าหมายหลักของการขยายตัวทางเศรษฐกิจของจีน ตัวอย่างเช่น ตลาดอสังหาริมทรัพย์ในจีนที่ประสบปัญหาทำให้ชาวจีนเริ่มมองหาการลงทุนในต่างประเทศ โดยเฉพาะในไทย ส่งผลให้ราคาคอนโดในไทยสูงขึ้นจนเกินกว่าที่ประชาชนไทยทั่วไปจะซื้อไหว
5. ไทยจะรับมือกับการครอบงำทางเศรษฐกิจของจีนอย่างไร
หากไทยต้องการลดความเสี่ยงจากการพึ่งพาจีนมากเกินไป ควรมีการกระจายตลาดการค้าและการลงทุนไปยังประเทศอื่น ๆ เช่น อินเดีย ญี่ปุ่น และยุโรป นอกจากนี้ รัฐบาลควรมีมาตรการควบคุมการลงทุนจากต่างชาติให้มีความสมดุล เพื่อป้องกันการครอบงำของทุนจีนในภาคอสังหาริมทรัพย์และอุตสาหกรรมสำคัญ ๆ
อีกประเด็นที่ต้องให้ความสำคัญคือ การพัฒนาเศรษฐกิจภายในประเทศให้แข็งแกร่งขึ้น ไม่ใช่เพียงแค่รอรับเงินลงทุนจากต่างชาติ ไทยควรส่งเสริมธุรกิจท้องถิ่นให้สามารถแข่งขันได้ในระดับสากล ลดการพึ่งพาทรัพยากรและเทคโนโลยีจากจีน และสร้างนโยบายเศรษฐกิจที่คำนึงถึงผลประโยชน์ของคนไทยเป็นหลัก
สรุป
อิทธิพลทางเศรษฐกิจของจีนที่มีต่อไทยกำลังขยายตัวในทุกมิติ ตั้งแต่การค้า การลงทุน อสังหาริมทรัพย์ ไปจนถึงการท่องเที่ยว แม้ว่าจะมีข้อดีในแง่ของการเติบโตทางเศรษฐกิจ แต่หากไทยไม่มีมาตรการรับมืออย่างเหมาะสม ไทยอาจกลายเป็นเศรษฐกิจบริวารของจีนในระยะยาว การกระจายความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจไปยังประเทศอื่น ๆ และการส่งเสริมธุรกิจภายในประเทศให้แข็งแกร่งขึ้นเป็นแนวทางที่จำเป็นเพื่อรักษาอธิปไตยทางเศรษฐกิจของไทย