ความสัมพันธ์ไทย–กัมพูชาไม่ใช่แค่เรื่องการเมืองระหว่างประเทศ แต่ยังเป็นเส้นเลือดใหญ่ด้านเศรษฐกิจ การค้าชายแดน และวัฒนธรรมที่เชื่อมโยงประชาชนทั้งสองฝั่งมาเป็นเวลานาน การเดินทาง สินค้า และการลงทุนจำนวนมหาศาลหมุนเวียนอยู่ในระบบเศรษฐกิจของทั้งสองประเทศ แต่ถ้าเกิดเหตุการณ์สุดโต่งที่ไทย ตัดความสัมพันธ์กับกัมพูชาทุกมิติ ทั้งการค้า พลังงาน โลจิสติกส์ และการทูต ผลกระทบที่ตามมาจะกว้างขวางและรุนแรงเพียงใด?
1. พลังงาน: ไฟฟ้าและน้ำมัน
-
ไฟฟ้า: ปัจจุบันกัมพูชานำเข้าไฟฟ้ารวมกว่า 3.48 TWh ในปี 2023 โดยมาจากไทยเพียง 0.133 TWh (ไม่ถึง 1%) ส่วนใหญ่พึ่งลาวและเวียดนาม ดังนั้นในภาพรวมประเทศยังสามารถเอาตัวรอดได้หากไทยหยุดส่ง แต่ปัญหาจะเกิดในบางจังหวัดชายแดนที่เชื่อมสายส่งกับไทยโดยตรง เช่น เสียมราฐและพระตะบอง ที่อาจเจอไฟตกหรือไฟดับเป็นระยะในช่วงแรก จนกว่ารัฐบาลกัมพูชาจะหาทางปรับโหลดไฟฟ้าจากลาวหรือเวียดนามเข้ามาทดแทน
-
น้ำมันเชื้อเพลิง: นี่คือจุดเปราะหลักของกัมพูชา เพราะเดิมที มากกว่า 60% ของน้ำมันที่ใช้ในประเทศนำเข้าจากไทย การหยุดส่งทันทีจะทำให้กัมพูชาเผชิญภาวะขาดแคลน รัฐบาลเคยอ้างว่ามีสำรองอย่างน้อยหนึ่งเดือน แต่หลังจากนั้นจะต้องรีบหันไปนำเข้าจากสิงคโปร์และเวียดนาม ซึ่งไม่เพียงเพิ่มต้นทุนโลจิสติกส์ แต่ยังทำให้ราคาน้ำมันในประเทศพุ่งขึ้นทันที ส่งผลต่อราคาสินค้าและการขนส่งทุกชนิด
2. อินเทอร์เน็ตและโครงข่ายสื่อสาร
กัมพูชามีการเชื่อม backbone อินเทอร์เน็ตหลายเส้นทาง:
-
ผ่านไทย, เวียดนาม และสิงคโปร์
-
มีเคเบิลใต้น้ำ Malaysia–Cambodia–Thailand (MCT) ที่ขึ้นฝั่งสีหนุวิลล์และต่อไปยังมาเลเซียโดยตรง
หากไทยหยุดการเชื่อมต่อ อินเทอร์เน็ตของกัมพูชาจะยังไม่ล่มทั้งประเทศ แต่แบนด์วิธในบางพื้นที่จะตึงทันที ความเร็วลดลงและค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้น ผู้ให้บริการจะต้องเร่งสลับเส้นทางไปเวียดนามและสิงคโปร์ ซึ่งในทางเทคนิคทำได้แต่ไม่ทันที ทำให้ผู้ใช้งานทั่วไปได้รับผลกระทบในช่วงแรกอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
3. การค้าชายแดนและโลจิสติกส์
-
การค้ารวม ไทย–กัมพูชามีมูลค่ากว่า 10,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐต่อปี ไทยเป็นหนึ่งในคู่ค้าหลักที่สุด การปิดด่านทันทีจะทำให้กัมพูชาขาดสินค้าจำเป็นในระยะสั้นโดยเฉพาะในพื้นที่ชายแดนที่พึ่งพาการนำเข้ารายวัน
-
สินค้าอาหารและของใช้: ไทยคือผู้ส่งออกหลักทั้งข้าวสาร น้ำตาล ผลไม้สด ผัก ผลิตภัณฑ์แปรรูป และเครื่องอุปโภคบริโภค เช่น ผงซักฟอก ยาสระผม เครื่องใช้ไฟฟ้าขนาดเล็ก และเวชภัณฑ์พื้นฐาน หากตัดการนำเข้า ประชาชนกัมพูชาจะต้องซื้อสินค้าจากเวียดนามหรือจีนแทน ซึ่งมีต้นทุนสูงกว่าและคุณภาพไม่สม่ำเสมอ ของบางชนิดที่คุ้นเคยอาจหายไปจากตลาดทันที
-
โลจิสติกส์: ปัจจุบันสินค้าส่วนใหญ่เดินทางเข้ากัมพูชาทางบกผ่านชายแดนไทย การปิดเส้นทางจะบังคับให้ผู้ค้าต้องใช้ท่าเรือของเวียดนามหรือสิงคโปร์แทน ส่งผลให้ค่าขนส่งสูงขึ้นและใช้เวลามากขึ้น ราคาสินค้าปลีกในกัมพูชาจะพุ่งขึ้นเป็นเงาตามตัว
4. การลงทุนจากบริษัทไทย
นอกจากการค้าสินค้าแล้ว บริษัทไทยจำนวนมากได้ลงทุนโดยตรงในกัมพูชา:
-
ค้าปลีกและบริการ: กลุ่ม CP (แม็คโคร, 7-Eleven), กลุ่มเซ็นทรัล และโลตัส มีสาขาในพนมเปญและเมืองใหญ่ การปิดกิจการจะกระทบการจ้างงานและทำให้ทางเลือกของผู้บริโภคลดลงทันที
-
พลังงานและสาธารณูปโภค: บริษัทไทยลงทุนด้านโรงไฟฟ้า การจำหน่ายก๊าซหุงต้ม และพลังงานหมุนเวียน หากถอนตัว กัมพูชาต้องหาพันธมิตรใหม่ซึ่งอาจใช้เวลานานและเสียโอกาสด้านเทคโนโลยี
-
การเงินและธนาคาร: ธนาคารกสิกรไทย กรุงศรี และไทยพาณิชย์ให้บริการแก่ธุรกิจและประชาชน การถอนสาขาจะกระทบระบบสินเชื่อและความมั่นใจของนักลงทุนต่างชาติ
-
อสังหาริมทรัพย์และก่อสร้าง: กลุ่มทุนไทยบางรายยังร่วมพัฒนาโครงการอสังหาฯ และโครงสร้างพื้นฐาน หากยุติความร่วมมือ โครงการหลายแห่งอาจชะงักลงทันที
5. ผลกระทบต่อเศรษฐกิจและสังคม
-
เงินเฟ้อและค่าครองชีพ: ราคาน้ำมันที่สูงขึ้นบวกกับสินค้านำเข้าที่แพงขึ้น จะทำให้ค่าครองชีพในกัมพูชาสูงขึ้นรวดเร็ว ครัวเรือนยากจนได้รับผลกระทบหนักที่สุด
-
การจ้างงาน: ทั้งภาคโรงงานที่พึ่งวัตถุดิบจากไทยและธุรกิจค้าปลีกที่ไทยลงทุนจะปลดพนักงานออก ส่งผลให้เกิดแรงกดดันทางสังคมและความไม่พอใจต่อรัฐบาล
-
ภาคเกษตร: แม้กัมพูชามีการผลิตเอง แต่การพึ่งพาปัจจัยการผลิตจากไทย เช่น ปุ๋ย เครื่องจักรการเกษตร และเมล็ดพันธุ์บางชนิด หากถูกตัดขาดจะทำให้ผลผลิตลดลงในระยะกลางถึงยาว
-
การเมืองภายใน: รัฐบาลกัมพูชาอาจใช้เหตุการณ์นี้ชี้นิ้วโทษไทยเพื่อปลุกกระแสชาตินิยม แต่แรงกดดันจากค่าครองชีพที่สูงขึ้นอาจสร้างความไม่พอใจจนกลายเป็นแรงเสียดทานทางการเมืองได้
6. การทูตและภูมิรัฐศาสตร์
-
การพึ่งพาประเทศอื่น: กัมพูชาจะหันไปพึ่งจีน เวียดนาม และสิงคโปร์มากขึ้น เพื่อทดแทนการค้ากับไทย ทำให้บทบาทของไทยในภูมิภาคอาเซียนลดลง
-
ข้อจำกัดทางภูมิศาสตร์: แม้ว่ากัมพูชาจะพยายามลดการพึ่งพาไทย แต่ความจริงคือเส้นทางคมนาคมและตลาดที่ใกล้ที่สุดยังคงต้องผ่านไทย การตัดขาดโดยสิ้นเชิงจึงแทบเป็นไปไม่ได้หากต้องการความคุ้มค่า
-
ความสัมพันธ์อาเซียน: การปะทะทางเศรษฐกิจอาจทำให้ความร่วมมือในกรอบอาเซียนสะดุดลง และเปิดโอกาสให้มหาอำนาจนอกภูมิภาคเข้ามามีบทบาทมากขึ้นในกัมพูชา
บทสรุป
หากไทยตัดสัมพันธ์กับกัมพูชาในทุกมิติ แม้กัมพูชายัง ไม่ถึงขั้นล่มสลายทันที เพราะยังมีทางเลือกด้านพลังงานและการค้าจากประเทศอื่น แต่ผลกระทบจะรุนแรงใน น้ำมัน การค้าชายแดน อาหาร ของใช้ และการลงทุนโดยตรงจากบริษัทไทย ทำให้ค่าครองชีพและต้นทุนธุรกิจสูงขึ้นทันที พร้อมทั้งสร้างแรงกดดันทางการเมืองภายในประเทศ ขณะเดียวกันไทยเองก็สูญเสียโอกาสทางเศรษฐกิจและอิทธิพลในภูมิภาค ความสัมพันธ์ที่ตึงเครียดอาจบีบให้กัมพูชาต้องหันไปพึ่งจีนและเวียดนามมากขึ้น ซึ่งจะเปลี่ยนสมดุลภูมิรัฐศาสตร์ของอาเซียนอย่างมีนัยสำคัญ
อ้างอิง
-
Khmer Times. “President of the Cambodian Senate urges calm over Coca-Cola’s apparent termination with Vannda.” 18 Aug 2025.
-
Asian Power. “Cambodia imported 3.48TWh of power in 2023.”
-
Khmer Times. “Cambodia bans oil imports from Thailand, confirms supply alternatives.” Jun 2025.
-
Bangkok Post. “Thai-Cambodia border trade value hits $10bn.”
-
TeleGeography Submarine Cable Map. “Malaysia-Cambodia-Thailand Cable System.”