เคยสังเกตไหมว่า จิ้งจกที่อาศัยอยู่ในห้องน้ำ บางตัวไม่เคยออกจากตรงนั้นเลย มันอาจเกิด โต ใช้ชีวิต จนจากโลกนี้ไป โดยไม่เคยเห็นอะไรนอกเหนือจากพื้นที่ไม่กี่ตารางเมตรที่เต็มไปด้วยกลิ่นอับ ผนังเย็นชื้น และเสียงชักโครก
สำหรับมัน ห้องน้ำคือจักรวาล คือทั้งโลกที่มันเข้าใจ ผนังคือภูเขา ฝ้าเพดานคือท้องฟ้า หยดน้ำจากก๊อกคือสายฝนที่มาไม่เป็นเวลา และแมลงเล็ก ๆ ที่ตกลงมาตอนดึกคืออาหารที่ฟ้าประทาน
ไม่มีคำถาม ไม่มีการตั้งข้อสงสัย ไม่มีความใฝ่ฝันถึงสิ่งที่อยู่นอกขอบเขตที่มันรู้จัก เพราะมันไม่เคยรู้ว่าโลกใบนี้ยังมีอะไรอีกมากมายให้เห็น
แล้วถ้ามองย้อนกลับมา... ชีวิตของใครหลายคนอาจไม่ได้แตกต่างจากจิ้งจกในห้องน้ำเท่าไรนัก
เติบโตมาในบริบทเดิม ๆ เชื่อในกรอบความคิดที่ได้รับการสืบทอดมา เลือกทางเดินที่ปลอดภัย ทำตามหน้าที่ที่สังคมบอกว่าดี ใช้ชีวิตแบบไม่เคยเปิดหน้าต่างออกไปดูว่า… ข้างนอกห้องน้ำ มีอะไรอีกบ้าง
อาจมีความสุขแบบเรียบง่าย อาจอยู่รอดได้ดี แต่บางครั้งก็อดไม่ได้ที่จะสงสัยว่า— นี่คือทั้งหมดแล้วจริงหรือเปล่า?
บางคนอาจมีช่วงเวลาสั้น ๆ ที่รู้สึกวูบขึ้นมา เหมือนอะไรบางอย่างในใจสะดุด ระหว่างฟังเพลงที่ไม่เคยได้ยินมาก่อน ระหว่างมองออกไปจากกระจกบนรถเมล์ หรือแค่ตอนเดินผ่านเด็กคนหนึ่งที่กำลังหัวเราะโดยไม่มีเหตุผล
จังหวะพวกนั้นบางครั้งเหมือนเสียงกระซิบจากโลกภายนอก เหมือนคำถามที่ไม่มีใครตั้งใจถาม แต่ถ้าฟังดี ๆ มันอาจกำลังชวนให้เราสงสัยว่า—
เรากำลังใช้ชีวิตอยู่จริง ๆ หรือแค่ซ้อมใช้ชีวิตไปวัน ๆ
คนเราไม่ได้กลัวการเปลี่ยนแปลงเพราะมันไม่ดี แต่เพราะมันไม่คุ้น ความไม่คุ้นทำให้รู้สึกไม่ปลอดภัย ห้องน้ำที่แคบ อับชื้น และซ้ำซาก อาจรู้สึกปลอดภัยกว่าลานกว้างที่มีทั้งแดด ฝน ลมพายุ และความไม่แน่นอน
หลายครั้งที่โอกาสเปิดเข้ามาเหมือนหน้าต่างบานหนึ่ง แต่เรากลับหันหลังให้ เลือกจะอยู่ต่อในโลกใบเล็ก แล้วบอกตัวเองว่า “นี่แหละพอแล้ว”
ทั้งที่จริง…ประตูไม่เคยล็อกเลยด้วยซ้ำ
เหมือนจิ้งจกตัวหนึ่ง
ที่วันหนึ่งมันบังเอิญเดินไปถึงขอบหน้าต่าง
มันเกาะอยู่ตรงนั้น—เงียบ ๆ
แล้วเห็นแสงแดดสีอ่อนลอดผ่านต้นไม้
กลิ่นลมจากภายนอกโชยเข้ามาไม่เหมือนกลิ่นห้องน้ำที่มันคุ้นเคย
มันนิ่งอยู่สักพัก ไม่กระโดดออกไป
ไม่หันหลังกลับ
แค่มอง...เหมือนกำลังตั้งคำถามกับจักรวาลของตัวเองเป็นครั้งแรก
แล้วมันจะทำยังไง?
จะกระโดดออกไปสู่โลกที่ไม่รู้จัก? หรือจะหันกลับไปยังมุมอับใต้ฝักบัว ที่แม้จะเปียกและหนาว แต่ก็ปลอดภัย?
บางทีมันก็ยังไม่รู้คำตอบ เหมือนมนุษย์คนหนึ่ง ที่เพิ่งเข้าใจว่า... ตัวเองอาจใช้ชีวิตอยู่ในจักรวาลที่เล็กกว่าที่ควรจะเป็นมาตลอด
เราอาจไม่ได้ต้องออกไปจากห้องน้ำทันที แต่การเงยหน้าขึ้น มองเห็นหน้าต่าง และยอมรับว่ามีโลกอีกใบอยู่ข้างนอก นั่นก็อาจเป็นจุดเริ่มต้นที่สำคัญแล้ว
เพราะบางครั้งแค่รู้ว่า จักรวาลของเรายังไม่สิ้นสุดที่นี่ มันก็เพียงพอจะทำให้หัวใจเริ่มขยับอีกครั้ง
ชีวิตไม่ควรถูกจำกัดด้วยสิ่งที่เราคุ้นเคย แค่เพราะเราอยู่กับมันมานาน
บางที...การกล้าที่จะมองออกไปข้างนอก อาจทำให้เราเห็นว่า ชีวิตนี้ยังมีอะไรให้เรารู้สึก “มีชีวิต” ได้มากกว่าการรอดไปวัน ๆ
ลองเปิดหน้าต่างดูสักครั้ง บางทีลมหายใจของชีวิตที่แท้จริง อาจรออยู่ตรงนั้น
และในฐานะมนุษย์ เรามีมือที่จะเปิดประตู มีขาที่จะก้าวออกไป มีหัวใจที่สามารถกลัวและกล้าในเวลาเดียวกัน
ขีดจำกัดจึงไม่ใช่กำแพง ไม่ใช่ประตู ไม่ใช่โลกภายนอก แต่คือใจของเราที่เลือกจะเชื่อว่า— “แค่นี้ก็พอแล้ว”
เมื่อใจเริ่มขยับ...ทุกอย่างก็เป็นไปได้