ลองจินตนาการดูว่าคุณแค่พกไขควงไปทำงาน หรือมีแส้นินจาไว้ตั้งโชว์ในห้อง — แล้ววันดีคืนดีตำรวจอังกฤษก็แจ้งข้อหาครอบครองอาวุธผิดกฎหมาย! ฟังดูตลกใช่ไหม? แต่ในอังกฤษ นี่คือเรื่องจริง เพราะประเทศนี้มีกฎหมายควบคุมอาวุธที่เข้มข้นจนบางอย่างที่ดูเหมือนไม่ใช่อาวุธ ก็อาจกลายเป็นอาวุธได้ทันที ขึ้นอยู่กับเจตนา การพกพา และรูปลักษณ์
บทความนี้จะพาคุณไปรู้จักกับอาวุธต้องห้าม "แบบแปลก ๆ" ที่ถูกแบนในอังกฤษ พร้อมที่มา-ที่ไปว่าทำไมมันถึงผิดกฎหมาย และมีประเทศไหนอีกที่มีกฎหมายสุดพิสดารแบบนี้บ้าง!
กลุ่ม 1: อาวุธนินจา & อาวุธโบราณที่กลายเป็นสิ่งต้องห้าม
-
Nunchaku (กระบองสองท่อน): แบนตั้งแต่ยุค 1980s หลังจากที่เด็กอังกฤษดูหนัง Bruce Lee แล้วเลียนแบบ ทำให้รัฐบาลกลัวว่าจะกลายเป็นแฟชั่นอันตราย ถึงขั้นมีข่าวเด็กเล่นกันเองแล้วบาดเจ็บ
-
Shuriken (ดาวกระจาย): อาวุธขว้างแบบญี่ปุ่นที่มักเห็นในหนังนินจา ถูกแบนภายใต้ Criminal Justice Act 1988 เพราะลักษณะของมันเหมาะกับการลอบทำร้ายและควบคุมได้ยากในพื้นที่สาธารณะ
-
Kusarigama (เคียว+โซ่จากญี่ปุ่น): เป็นอาวุธยุคโบราณที่ประกอบด้วยเคียวและโซ่ยาว เหมาะกับการใช้พัน-ตัด-เหวี่ยงอย่างรวดเร็ว ถึงแม้จะหายากในชีวิตจริง แต่ก็ถูกระบุเป็นอาวุธต้องห้าม เพราะซับซ้อนและอันตรายแบบควบคุมยาก
-
Telescopic Baton (กระบองยืดได้): แม้ดูเหมือนอุปกรณ์ตำรวจ แต่ถ้าประชาชนทั่วไปพกไว้โดยไม่มีใบอนุญาต อาจกลายเป็นอาวุธจู่โจมได้ทันที ถูกแบนอย่างเป็นทางการในปี 2019 เพราะพบว่าถูกใช้ในคดีอาชญากรรมหลายครั้ง
-
Morning Star (ตะบองเหล็กติดหนาม): อาวุธยุโรปยุคกลางที่มีลักษณะเป็นลูกเหล็กกลมมีหนามติดบนไม้กระบอง — ฟังดูเหมือนของในเกม RPG หรือซีรีส์ Game of Thrones แต่เชื่อไหมว่าเคยมีคนผลิตขึ้นจริงในอังกฤษ และรัฐบาลต้องรีบจัดเข้ากลุ่มอาวุธต้องห้าม
-
Sai (สามง่ามของนินจา): แม้จะไม่ถูกแบนทุกกรณี แต่ถ้ามีปลายแหลมและถูกพกในที่สาธารณะโดยไม่มีเหตุผล กฎหมายก็สามารถตีความว่าเป็น offensive weapon ได้เช่นกัน
กลุ่ม 2: มีดแฟนตาซี & ของสะสมสุดหวือหวา
-
Zombie Knife (มีดใบหยักแนวแฟนตาซี): มีดที่หน้าตาเหมือนในหนังซอมบี้ ใบมีดหยัก ด้ามอลังการ แม้จะไม่คมมาก แต่กฎหมายปี 2016 กำหนดว่า “แค่ดูเหมือนมีไว้ทำร้าย” ก็พอแล้วที่จะผิด อาวุธชนิดนี้กลายเป็นประเด็นหลังเกิดเหตุการณ์แทงกันในลอนดอนหลายครั้งโดยใช้มีดแนวนี้
Stealth Knife (มีดพลาสติก/เซรามิก): ตรวจไม่เจอใน X-ray ใช้ลอบโจมตีได้ง่าย ถูกควบคุมเข้มขึ้นตั้งแต่ปี 1996 เป็นต้นมา โดยเฉพาะหลังมีความกังวลเรื่องความปลอดภัยในสนามบินและสถานที่ราชการ
-
Belt Buckle Knife (มีดซ่อนในหัวเข็มขัด): เหมือนของเล่นเท่ ๆ แต่แอบแฝงเจตนาโจมตี ถูกจัดอยู่ในกลุ่มอาวุธซ่อนรูป และผิดกฎหมายภายใต้ Offensive Weapons Order
-
Knuckle Duster (สนับมือเหล็ก): ช่วยเสริมแรงหมัด ทำให้โจมตีรุนแรงขึ้นมาก ถูกแบนชัดเจนตั้งแต่ก่อนปี 1988 เพราะเคยถูกใช้ในคดีทะเลาะวิวาทในผับบาร์บ่อยครั้งในยุคนั้น
-
Push Dagger (มีดแทงจากฝ่ามือ): มีลักษณะเหมือนด้ามจับที่ฝังใบมีดไว้ในแนวตั้ง ใช้แทงจากฝ่ามือโดยตรง เป็นอาวุธที่ใช้ได้รุนแรงและยากต่อการป้องกัน ถูกแบนเด็ดขาดเพราะถือว่าตั้งใจออกแบบเพื่อโจมตีอย่างเดียว ไม่มีประโยชน์อย่างอื่นแฝง
กลุ่ม 3: ของใช้ในบ้านที่อาจพาคุณเข้าคุกได้!
-
ไขควง: ใช่แล้ว แค่พกไขควงเดินบนถนนโดยไม่มีเหตุผล เช่น ไม่ได้ใช้ซ่อมจริง อาจถูกตำรวจจับฐานพกอาวุธได้ เพราะมันสามารถใช้แทงหรือทำร้ายคนได้เหมือนมีด
-
ถุงใส่ของหนัก เช่น แม่กุญแจหรือท่อโลหะ: ถ้าเอาไว้ในกระเป๋าแล้วถูกตีความว่า “เตรียมใช้ฟาดคน” ก็ถือว่าผิด บางคดีถึงกับใช้กุญแจพวงใหญ่ใส่ถุงเท้าเพื่อเป็นอาวุธเหวี่ยงโจมตี
-
ร่ม หรือไม้เท้าซ่อนใบมีด: เหล่านี้จัดว่าเป็น “concealed weapon” หรืออาวุธซ่อนรูปที่ผิดกฎหมาย ไม่ว่าจะใช้หรือไม่ก็ตาม มีกรณีคนขายของเก่าที่ไม่รู้ว่าร่มมีใบมีดซ่อน ถูกตำรวจยึดและสอบสวนอยู่พักใหญ่
-
ค้อน: ถ้าพกติดตัวในที่สาธารณะโดยไม่มีเหตุผลทางช่าง ก็มีโอกาสถูกตีความว่าเป็นอาวุธโจมตี โดยเฉพาะถ้าอยู่ในรถหรือกระเป๋าเป้โดยไม่มีอุปกรณ์ช่างอื่นประกอบ
-
ไข่ดิบหรือของเหลวในขวด: ฟังดูไม่น่าเชื่อ แต่มีกรณีที่วัยรุ่นอังกฤษพกไข่หรือขวดน้ำเพื่อขว้างใส่คนหรือรถ ถูกตั้งข้อหาใช้ “วัตถุพกพาเพื่อการทำร้าย” เช่นกัน แม้จะไม่ใช่อาวุธรุนแรงก็ตาม
กลุ่ม 4: เทคโนโลยีไฮเทคที่ผิดกฎหมาย
-
Taser หรือ Stun Gun (ปืนช็อตไฟฟ้า): ในอังกฤษ สิ่งนี้ถูกจัดว่าเป็น “firearm” หรืออาวุธปืนตามกฎหมาย Firearms Act 1968 ไม่ว่าจะเป็นแบบแตะตัวหรือยิงกระสุนสายไฟ ก็ถือว่าผิดทันทีถ้าไม่มีใบอนุญาต มีคดีที่วัยรุ่นพก Taser แบบซ่อนไว้ในไฟฉาย ถูกตัดสินจำคุกเพราะถือว่าเป็นอาวุธปืน
-
เลเซอร์แรงสูง: หากแรงเกิน 1mW โดยเฉพาะเลเซอร์สีเขียวที่มีพลังงานสูง อาจทำลายจอประสาทตาได้ เคยมีคดีที่มีคนใช้เลเซอร์ส่องใส่เครื่องบินหรือนักบิน และถูกจับในข้อหาเป็นภัยต่อความปลอดภัยทางการบิน ซึ่งเป็นคดีอาญา
-
เครื่องยิงลูกดอก/Blowpipe: แม้จะดูเหมือนของเล่น แต่ถ้าสามารถยิงวัตถุเล็กด้วยแรงอัด เช่น ลูกดอกโลหะหรือมีเข็มปลายแหลม ถือว่าเป็นอาวุธต้องห้ามทันที โดยเฉพาะถ้ามีการใช้ในการล่าสัตว์หรือขู่ทำร้าย
-
ไฟฉายไฟแรงสูง (High-Power Flashlight): ถ้ามีฟังก์ชันช็อตไฟฟ้า หรือยิงแสงแรงระดับตาบอด ถือเป็นอาวุธได้เช่นกัน เพราะสามารถใช้เพื่อข่มขู่หรือทำร้ายในทางอ้อม
-
GPS Jammer หรืออุปกรณ์รบกวนสัญญาณ: แม้จะไม่ใช่อาวุธแบบกายภาพ แต่ก็ผิดกฎหมายในอังกฤษ เพราะอาจนำไปใช้ขัดขวางการติดตามจากเจ้าหน้าที่หรือตำรวจ (ปืนช็อตไฟฟ้า)**: ในอังกฤษสิ่งนี้ถือว่าเป็น “firearm” หรืออาวุธปืนตามกฎหมาย มีโทษเท่ากับการพกปืนจริง!
กลุ่ม 5: ประเทศอื่น ๆ ที่มีกฎหมายแปลก ๆ ไม่แพ้กัน
-
สิงคโปร์: ห้ามขายหมากฝรั่งเด็ดขาด ตั้งแต่ปี 1992 ถ้าพกเข้าอาจถูกยึดหรือปรับ แม้จะเป็นแค่ของกิน
-
ญี่ปุ่น: ห้ามพกมีดพับที่ใบยาวเกิน 6 ซม. แม้จะไม่มีเจตนาโจมตีก็อาจโดนจับได้หากตำรวจตรวจพบ
-
แคนาดา: มีการแบน “Gravity Knife” หรือมีดที่ใบมีดเด้งออกมาด้วยแรงโน้มถ่วง แม้ไม่ได้เป็นมีดโจมตีโดยตรง
-
สหรัฐฯ (บางรัฐ): นิวยอร์กเคยแบนกระบองสองท่อน (Nunchaku) แม้จะใช้ฝึกศิลปะการป้องกันตัวก็ตาม จนถึงปี 2018 ศาลจึงยกเลิกการแบนดังกล่าว
-
อินเดีย: ในบางรัฐ ห้ามประชาชนพกดาบหรือมีดใหญ่ในที่สาธารณะ แม้จะเป็นส่วนหนึ่งของวัฒนธรรม เช่น ชาวซิกข์ที่ถือดาบศักดิ์สิทธิ์ (kirpan) ต้องมีใบอนุญาตพิเศษ
-
ออสเตรเลีย: ห้ามพกมีดในที่สาธารณะ แม้จะใช้หั่นผลไม้ หรือทำอาหารกลางแจ้ง ถ้าไม่มีเหตุผลเพียงพออาจถูกปรับหรือติดคุก
-
เยอรมนี: แบนมีดพับที่เปิดใบมีดได้ด้วยมือเดียว (One-hand opening knife) หากใบยาวเกิน 8.5 ซม. เพราะถือว่าเป็นอาวุธโจมตี
สรุป
หลังจากอ่านมาทั้งหมด อาจรู้สึกเหมือนโลกนี้เต็มไปด้วยกับดักของกฎหมายที่พาเราจาก "สายเท่" ไปเป็น "สายต้องสงสัย" ได้ในพริบตา เพราะในประเทศอย่างอังกฤษ สิ่งที่คุณคิดว่าแค่ของเล่น ของสะสม หรืออุปกรณ์ช่างธรรมดา — ถ้าอยู่ผิดที่ผิดเวลา ก็อาจกลายเป็น "อาวุธ" ในทางกฎหมายได้ทันที
สิ่งที่น่าสนใจคือ กฎหมายเหล่านี้ไม่ได้มองแค่รูปลักษณ์ของสิ่งของเท่านั้น แต่ยังพิจารณา "เจตนา" และ "สถานการณ์" ซึ่งหมายความว่า ไขควงในกล่องเครื่องมือไม่ผิด แต่ไขควงในกระเป๋าเป้กลางดึกในลอนดอน — นั่นอาจไม่จบสวย
ประเด็นจึงไม่ใช่แค่ "ของที่พก" แต่คือ "คุณพกมันทำไม พกมันที่ไหน และจะใช้มันยังไง"
ดังนั้นก่อนจะพกอะไรออกจากบ้าน ลองถามตัวเองว่า:
"สิ่งนี้มันจำเป็น หรือมันจะทำให้ฉันได้คุยกับตำรวจมากกว่าที่ควร?"
สรุปง่าย ๆ คือ... เท่ได้ ไม่ว่า แต่ต้องเท่แบบรู้กาลเทศะ และเข้าใจกฎหมายพื้นฐานไว้บ้าง เพราะบางครั้งของที่เท่ในหนัง อาจพาเราขึ้นโรงพักได้จริง ๆ ในชีวิตจริง 😅