สืบเนื่องจาก blog ก่อนหน้า เรื่องค่าไฟ เทียบกับรายได้
บทนำ
ทุกครั้งที่สังคมถกเถียงกันเรื่องค่าไฟ คำถามหนึ่งที่ตามมาคือ “จริง ๆ แล้วค่าไฟไทยแพงหรือถูก?” หลายคนอาจจะอ้างว่าเมื่อดูตัวเลขเปล่า ๆ แล้ว ไทยยังจ่ายค่าไฟถูกกว่ายุโรปหรืออเมริกา แต่ในอีกมุมหนึ่ง ถ้ามองลึกลงไปถึงกำลังซื้อและรายได้เฉลี่ยต่อหัว เราอาจจะพบว่าคนไทยกำลังเผชิญภาระค่าไฟที่สูงกว่าที่ควรจะเป็น การเปรียบเทียบที่แท้จริงจึงไม่ใช่แค่การมองที่ “ราคาไฟต่อหน่วย” แต่ต้องพิจารณาว่า คนไทยต้องทำงานกี่นาทีเพื่อจ่ายค่าไฟ 1 หน่วย (1 kWh) และถ้าใช้มาตรฐานประเทศพัฒนาแล้วหรือประเทศเอเชียรายได้สูงเป็นเกณฑ์ เราจะเห็นว่าค่าไฟไทย “ควรจะเป็น” เท่าไหร่ เพื่อให้สอดคล้องกับรายได้และค่าครองชีพจริง ๆ
ค่าไฟปัจจุบันในไทย
-
ค่าไฟเฉลี่ยไทย: 3.98 บาท/หน่วย (รอบ ก.ย.–ธ.ค. 2568 มี Ft ใหม่ ทำให้ราคารวมอยู่ราว 3.94–3.95 บ./หน่วย)
-
รายได้เฉลี่ย: 15,738 บาท/เดือน หรือราว 2.63 ดอลลาร์/ชม. (อิงจากการทำงาน 173 ชม./เดือน)
-
เวลาในการทำงานเพื่อจ่ายไฟ 1 หน่วย: ≈ 2.63 นาที (ที่ 3.98 บ./หน่วย); หรือ ≈ 2.61 นาที (ที่ 3.95 บ./หน่วย)
เมื่อนำตัวเลขนี้ไปเทียบกับประเทศพัฒนาแล้วที่ใช้เวลาเพียง 0.3–0.9 นาทีต่อหน่วย จะเห็นว่าคนไทยต้องทุ่มเวลาในการทำงานมากกว่าหลายเท่าเพื่อจ่ายไฟฟ้าในปริมาณเดียวกัน
เวอร์ชันที่ 1: เทียบกับประเทศพัฒนาแล้ว (G7/OECD)
ในกลุ่มประเทศพัฒนาแล้ว เช่น สหรัฐฯ แคนาดา เยอรมนี อังกฤษ ฝรั่งเศส หรือออสเตรเลีย เวลาที่ต้องใช้ในการทำงานเพื่อจ่ายค่าไฟเฉลี่ยอยู่ที่ ≈ 0.55 นาทีต่อหน่วย เท่านั้น (อิงค่าเฉลี่ยจากชุดประเทศตัวอย่าง: สหรัฐฯ, แคนาดา, ออสเตรเลีย, ฝรั่งเศส, เยอรมนี, อังกฤษ) เมื่อเทียบกับไทยที่ 2.9 นาที จะเห็นความเหลื่อมล้ำชัดเจน
-
ถ้าคนไทยควรจ่ายในสัดส่วนเดียวกัน: ค่าไฟไทยควรอยู่ที่ ≈ 0.83 บาท/หน่วย
-
เทียบกับปัจจุบันที่ 3.98 บาท: ไทยจ่ายแพงเกินไป ≈ +377%
-
กล่าวอีกแบบ ค่าไฟไทยควร “ถูกลง ≈79%” เพื่อให้สมดุลกับรายได้แบบประเทศพัฒนาแล้ว
เวอร์ชันที่ 2: เทียบกับเอเชียรายได้สูง (ญี่ปุ่น, เกาหลีใต้, สิงคโปร์)
หากเปรียบเทียบกับประเทศเอเชียที่ค่าครองชีพสูงและมีรายได้เฉลี่ยสูง ได้แก่ ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ และสิงคโปร์ จะพบว่าค่าเฉลี่ยเวลาทำงานต่อไฟ 1 หน่วยอยู่ที่ ≈ 0.70 นาที ซึ่งยังต่ำกว่าของไทยเกือบ 4 เท่า
-
ถ้าคนไทยควรจ่ายในสัดส่วนเดียวกัน: ค่าไฟไทยควรอยู่ที่ ≈ 1.06 บาท/หน่วย
-
เทียบกับปัจจุบันที่ 3.98 บาท: ไทยจ่ายแพงเกินไป ≈ +275%
-
หรือพูดได้ว่า ค่าไฟไทยควร “ถูกลง ≈73%” เพื่อให้ใกล้เคียงกับมาตรฐานของภูมิภาค
มุมมองที่ได้จากการเปรียบเทียบ
จากการคำนวณทั้งสองเวอร์ชัน จะเห็นได้ว่าค่าไฟไทยในปัจจุบัน ไม่แพงในเชิงราคาป้าย เพราะต่ำกว่ายุโรปและอเมริกา แต่เมื่อเทียบกับรายได้จริง คนไทยกลับต้องเสียเวลาและแรงงานมากกว่าหลายเท่า นี่คือการสะท้อนว่า ค่าแรงและรายได้ของไทยยังอยู่ในระดับที่ต่ำมากเมื่อเทียบกับค่าครองชีพและประเทศเพื่อนบ้าน
ค่าไฟที่ “ควรจะเป็น” หากเทียบกับมาตรฐานโลก ควรอยู่เพียง ≈ 0.83–1.06 บาท/หน่วย เท่านั้น ซึ่งต่ำกว่าปัจจุบันถึง 3–5 เท่า ความจริงข้อนี้ชี้ว่า ปัญหาที่แท้จริงไม่ได้อยู่ที่ค่าไฟแพงเกินไป แต่คือรายได้ไทยที่ต่ำเกินไป ส่งผลให้ค่าใช้จ่ายพื้นฐานอย่างพลังงานกลายเป็นภาระหนัก
ข้อสรุป
แม้เราจะเห็นข่าวบ่อย ๆ ว่าประเทศไทยมีค่าไฟที่ถูกกว่ายุโรปหรืออเมริกา แต่ถ้ามองในแง่ “กำลังซื้อ” คนไทยกำลังจ่ายค่าไฟที่หนักกว่ามาตรฐานโลก 3–5 เท่า การแก้ไขปัญหาในระยะยาวจึงไม่ใช่การบังคับให้ค่าไฟถูกลงอย่างเดียว เพราะนั่นอาจบิดเบือนต้นทุนที่แท้จริงของพลังงานและระบบไฟฟ้า แต่สิ่งสำคัญกว่าคือ การยกระดับรายได้และผลิตภาพแรงงาน ให้สูงขึ้น เพื่อให้สมดุลกับค่าครองชีพและต้นทุนจริงของการใช้ชีวิต
กล่าวให้เข้าใจง่าย ๆ: ถ้ารายได้ไทยไม่ขยับขึ้น ค่าไฟที่สะท้อนความเป็นจริงควรอยู่ราว 0.75–1.02 บาท/หน่วย ไม่ใช่เกือบ 4 บาทอย่างทุกวันนี้ นั่นหมายความว่า ปัญหาหลักไม่ใช่ตัวเลขค่าไฟในบิล แต่คือ โครงสร้างรายได้ของคนไทยที่ยังไม่สอดคล้องกับมาตรฐานโลก.