Thyssenkrupp AG คือหนึ่งในกลุ่มอุตสาหกรรมที่เก่าแก่และทรงอิทธิพลที่สุดของเยอรมนี มีประวัติศาสตร์ยาวนานนับตั้งแต่ศตวรรษที่ 19 จนถึงปัจจุบัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านการผลิตเหล็ก วิศวกรรมหนัก อาวุธยุทโธปกรณ์ และเทคโนโลยีสำหรับอุตสาหกรรมการผลิตและยานยนต์ บริษัทเกิดจากการควบรวมของสองราชวงศ์อุตสาหกรรมเหล็ก ได้แก่ ตระกูล Thyssen และ Krupp ซึ่งต่างมีบทบาทอย่างยิ่งต่อการพัฒนาเศรษฐกิจของเยอรมนีในช่วงยุคจักรวรรดิ และกลายมาเป็นเสาหลักด้านอุตสาหกรรมของชาติในเวลาต่อมา
⛏️ จุดเริ่มต้นและยุคทองของ Krupp และ Thyssen
-
Krupp เริ่มต้นในศตวรรษที่ 19 โดยมีฐานที่มั่นอยู่ที่เมืองเอสเซิน (Essen) ซึ่งต่อมาเป็นศูนย์กลางด้านอุตสาหกรรมของเยอรมนี Krupp มีชื่อเสียงจากการเป็นผู้ผลิตปืนใหญ่ รถถัง และอาวุธในสงครามโลกทั้งสองครั้ง จนได้ฉายาว่า "โรงงานปืนของยุโรป"
-
Thyssen ก่อตั้งโดย August Thyssen โดยมีธุรกิจหลักคือการผลิตเหล็กและถลุงเหล็กในเขต Ruhr ซึ่งเป็นเขตอุตสาหกรรมสำคัญที่สุดของเยอรมนีในยุคอุตสาหกรรม
-
ปี 1999 ทั้งสองตระกูลควบรวมกิจการเป็น Thyssenkrupp AG กลายเป็นกลุ่มอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ที่มีเครือข่ายไปทั่วโลก และมีบทบาทครอบคลุมหลายภาคส่วนทั้งด้านเหล็ก วิศวกรรมอุตสาหกรรม ลิฟต์ เครื่องจักร และอาวุธ
🌀 ยุคแห่งการลงทุนเชิงรุกและความท้าทายทางการเงิน
ในช่วงปี 2006–2011 บริษัทดำเนินกลยุทธ์การลงทุนในระดับโลก โดยเน้นการขยายการผลิตเหล็กไปยังต่างประเทศ เพื่อลดต้นทุนวัตถุดิบและเข้าใกล้ตลาดผู้บริโภค เช่น:
-
ลงทุนกว่า 12,000 ล้านยูโรในการสร้างโรงงานผลิต slab เหล็กในบราซิล (CSA) และโรงงานรีดเหล็กในรัฐ Alabama สหรัฐอเมริกา
-
อย่างไรก็ตาม โครงการเหล่านี้กลับกลายเป็นหายนะทางการเงิน เนื่องจากปัญหาด้านคุณภาพการก่อสร้าง การบริหารจัดการที่ล่าช้า ค่าขนส่งที่สูงกว่าคาด และตลาดที่ผันผวน
-
ผลที่ตามมาคือบริษัทขาดทุนสะสมกว่า 8,000 ล้านยูโร และทำให้เรตติ้งทางการเงินตกต่ำ หุ้นตกต่ำ และถูกกดดันจากนักลงทุนให้ปรับโครงสร้างครั้งใหญ่
❌ การปรับโครงสร้างองค์กรและการขายกิจการที่ไม่ใช่ธุรกิจหลัก
Thyssenkrupp เริ่มปรับโครงสร้างองค์กรครั้งใหญ่ในช่วงหลังปี 2011 โดยมีเป้าหมายเพื่อลดภาระทางการเงินและมุ่งเน้นเฉพาะกิจการที่ทำกำไรหรือสามารถเติบโตในระยะยาวได้ ดังนั้นจึงเริ่มทยอยขายกิจการที่ไม่ใช่ core business ออกไป
🔍 รายชื่อกิจการที่ถูกขายออก
ปี | กิจการที่ขาย | ผู้ซื้อ | รายละเอียด |
---|---|---|---|
2011 | XERVON GmbH | REMONDIS, เยอรมนี | บริษัทบริการโรงงานอุตสาหกรรมและโครงสร้างพื้นฐาน |
2012 | Inoxum (Stainless Steel) | Outokumpu, ฟินแลนด์ | กลุ่มธุรกิจสแตนเลสขนาดใหญ่ที่รวมถึงโรงงานในยุโรปและอเมริกา |
2012 | Waupaca Foundry | KPS Capital Partners, USA | โรงหล่อเหล็กในสหรัฐอเมริกา ผลิตชิ้นส่วนสำหรับอุตสาหกรรมยานยนต์ |
2013 | Tailored Blanks + Lasertechnik | WISCO, จีน | ธุรกิจเชื่อมเหล็กด้วยเลเซอร์สำหรับผลิต Tailored Blanks |
2014 | Steel USA (Alabama) | ArcelorMittal + Nippon Steel | โรงงานรีดเหล็กขั้นปลาย มูลค่ากว่า 1.5 พันล้านดอลลาร์ |
2017 | CSA (Brazil) | Ternium, Argentina | โรงงานถลุง slab เหล็กในบราซิลที่ขาดทุนต่อเนื่อง |
2020 | TK Elevator | Advent + Cinven + RAG Foundation | ธุรกิจลิฟต์ที่ทำกำไรมากที่สุดของบริษัท ขายได้กว่า 17 พันล้านยูโร |
2021 | Mining Division | FLSmidth, เดนมาร์ก | ธุรกิจผลิตเครื่องจักรกลเหมืองแร่ |
2021 | Infrastructure | FMC Beteiligungs KG | หน่วยงานก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐาน |
2023 | Electrical Steel India | JSW Steel + JFE Steel | ธุรกิจเหล็กไฟฟ้าในอินเดีย |
2024 | Industries India | Paharpur + Protos Engineering | ธุรกิจวิศวกรรมอุตสาหกรรมในอินเดีย |
2024 | 20% Steel Europe | EP Corporate Group (เช็ก) | ขายหุ้นบางส่วนของ Steel Europe ให้พันธมิตรร่วมทุนเพื่อเสริมสภาพคล่อง |
🌎 การเปลี่ยนแปลงของกิจการ Lasertechnik
-
Thyssenkrupp Lasertechnik GmbH เคยเป็นหน่วยงานเทคโนโลยีที่พัฒนาเครื่องเชื่อมเลเซอร์อัตโนมัติสำหรับอุตสาหกรรมยานยนต์
-
ปี 2013 กิจการนี้ถูกขายให้กับ WISCO ซึ่งเป็นบริษัทเหล็กของจีน และต่อมารวมเข้าเป็นส่วนหนึ่งของ Baosteel ภายใต้กลุ่ม China Baowu Steel Group
-
ปัจจุบันดำเนินกิจการภายใต้ชื่อใหม่คือ Baosteel Lasertechnik GmbH ซึ่งยังคงตั้งอยู่ที่เมือง Ravensburg เยอรมนี
⚙️ ธุรกิจหลักที่ยังคงอยู่ในเครือ Thyssenkrupp (ปี 2025)
แม้จะลดขนาดองค์กรลงอย่างมาก แต่ Thyssenkrupp ยังดำเนินธุรกิจสำคัญใน 5 กลุ่มหลัก:
-
Steel Europe – ยังคงเป็นหนึ่งในผู้ผลิตเหล็กรายใหญ่ในยุโรป แม้จะอยู่ระหว่างการปรับลดกำลังการผลิต และหาพันธมิตรร่วมทุนเพื่อรับมือกับต้นทุนที่สูงขึ้น
-
Marine Systems – ผลิตเรือดำน้ำและเรือรบให้กับหลายกองทัพ เช่น เยอรมนี อิสราเอล และอียิปต์ โดยเน้นเทคโนโลยีเรือดำน้ำพลังงานไฮโดรเจน
-
Automotive Technology – ผลิตชิ้นส่วนรถยนต์ระดับ high-precision เช่น พวงมาลัยไฟฟ้า ระบบกันสะเทือน เพลาขับ และโครงสร้างอลูมิเนียม
-
Materials Services – ดำเนินธุรกิจจัดจำหน่ายวัสดุและระบบโลจิสติกส์อุตสาหกรรม มีเครือข่ายทั่วโลก รวมถึงระบบบริหารซัพพลายเชนอัตโนมัติ
-
Industrial Solutions – วิศวกรรมก่อสร้างโรงงานอุตสาหกรรม เช่น โรงงานปุ๋ย โรงงานเคมี พลังงาน และระบบสายการผลิต
🧭 สถานะและทิศทางของกิจการในปัจจุบัน
-
พยายามเปลี่ยนผ่านเข้าสู่ยุคอุตสาหกรรมสะอาด โดยเน้นพัฒนา Hydrogen-based steel และ เทคโนโลยีลดคาร์บอน
-
เผชิญปัญหาเรื่องต้นทุนพลังงานในยุโรป และการแข่งขันจากเหล็กราคาถูกจากจีน
-
มีแผนปลดพนักงานกว่า 11,000 คนภายในปี 2030 เพื่อปรับโครงสร้างกำลังผลิต
-
กลุ่มทุนใหม่ EP Corporate Group จากเช็กเข้ามาถือหุ้นใน Steel Europe เพื่อเสริมเงินทุนและพัฒนาเทคโนโลยีสีเขียวร่วมกัน
✅ สรุปภาพรวม
Thyssenkrupp คือภาพสะท้อนของบริษัทยักษ์ใหญ่จากยุคอุตสาหกรรมหนักที่ต้องเผชิญความเปลี่ยนแปลงของเศรษฐกิจโลก การแข่งขันที่รุนแรงจากตลาดใหม่ และแรงกดดันด้านสิ่งแวดล้อม แม้จะต้องขายกิจการหลักหลายส่วนเพื่อความอยู่รอด แต่ก็ยังคงรักษาจุดแข็งไว้ในกลุ่มเทคโนโลยีที่มีศักยภาพสูง เช่น เรือดำน้ำ พลังงานทางเลือก และระบบอัตโนมัติ หากบริษัทสามารถเปลี่ยนผ่านสู่เศรษฐกิจคาร์บอนต่ำได้สำเร็จ ก็อาจกลับมาเป็นผู้นำในยุคอุตสาหกรรมใหม่ได้อีกครั้ง