กระทิงป่าเขาอ่างฤาไนตายแล้ว 00:45 น.
เวลา 22.30 น.นายสัตวแพทย์เจษฎา แถวเนิน นายสัตว์แพทย์ประจำสวนสัตว์เปิดเขาเขียว จ.ชลบุรี ทีมสัตวแพทย์ผู้รักษาอาการบาดเจ็บกระทิงป่าเปิดเผยว่า จากกรณีกระทิงป่าเพศผู้ขนาดน้ำหนักกว่า 800 กก.ถูกบ่วงแร้วที่เท้าหลังขวาเป็นแผลฉกรรจ์ และถูกยิงด้วยปืนลูกซองเข้าใต้ขอบตาขวา สะโพกขวา และดิ้นหนีบ่วงจนสะโพกหลุดพบบาดเจ็บสาหัสที่ป่าชุมชนบ้านร่มโพธิ์ทอง หมู่ที่ 7 ต.คลองตะเกรา อ.ท่าตะเกียบ จ.ฉะเชิงเทรา ติดต่อเขตรักษาพันธ์สัตว์ป่าเขาอ่างฤาไน ในพื้นที่ป่ารอยต่อ 5 จังหวัดภาคตะวันออก ทีมคณะสัตวแพทย์จากหลายแห่งระดมช่วยเหลือ นำมารักษาอาการบาดเจ็บที่สวนสัตว์เปิดเขาเขียว ตั้งแต่วันที่ 4 ม.ค.ที่ผ่านมานั้น วันนี้เวลา 21.00 น.กระทิงป่าได้เสียชีวิตแล้ว โดยกระทิงป่าเริ่มมีอาการทรุด และเกิดภาวะเครียดตั้งแต่เวลา 19.00 น.จากการตรวจรักษาพบว่า ก่อนหน้ามีภาวะโลหิตจาง และตรวจพบอาการติดเชื้อพยาธิในกระแสโลหิตร่วมด้วย
http://breakingnews.nationchannel.com/read.php?newsid=299240
.
มันก็คงเหมือนข่าวการตายที่เราพบเห็นได้อยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน
ต่างไปที่มันเป็นการตายของกระทิง สัตว์ป่าที่หายาก
และเป็นการตายอันเกิดจากฝีมือของมนุษย์เห็นแก่ได้บางคน
ขึ้นชื่อว่าพรานป่า จะเป็นโดยอาชีพ หรือเป็นเพราะทำได้
ก็ต้องดำรงชีพด้วยการเข้าป่าล่าสัตว์หรือหาของป่าทั้งนั้น
แต่ด้วยสภาพป่าที่เปลี่ยนแปลงไป สมัยนี้สัตว์ไม่ได้มีมากมายเหมือนแต่ก่อนแล้ว
เอาแค่อ่านนิยายเรื่องเพชรพระอุมา ก็คงจะพอจินตนาการถึงป่าสมัยราว 40-50 ปีก่อนได้
กระทิงป่าเขาอ่างฤๅไน ถ้าผมจำไม่ผิด
รายการ ไอซียู ของวิลลี่ แมคอินทอช เคยไปถ่ายทำมาแล้ว
ไปเห็นกระทิงฝูงสุดท้ายที่แต่ละตัวสูงท่วมหัววิลลี่....
คุณลองจินตนาการถึงสัตว์ป่าตัวหนึ่ง ที่ยืนสี่ขา รูปร่างล่ำสัน
และสูงร่วม 2 เมตรสิครับ... มันน่าตื่นตาตื่นใจขนาดไหน...
ลืมวัวตามทุ่งที่ผอมเหลือแต่ซี่โครงไปได้เลย
เพราะกระทิงมีแต่กล้ามเนื้อแน่นๆ และความยิ่งใหญ่แบบที่น้อยคนจะเคยเห็น...
มันเหลือน้อยเหลือเกินแล้วครับ
อย่าให้คนรุ่นผมต้องมารับรู้อีกเลยว่ามีสัตว์ชนิดใดสูญพันธุ์ไปจากประเทศไทยอีก...
โลกไม่ได้เป็นของมนุษย์...
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น
เชิญแสดงความคิดเห็น