วันเสาร์, ธันวาคม 24, 2554

จะหาใครทำผัดไทย มันเท่า Vegan Black Metal Chef ไม่มีอีกแล้ว… [video]

ขอเชิญพบกับ Vegan Black Metal Chef หรือ พ่อครัวแบล็คเมทัลมังสวิรัติ -_-"

ฟังดูไม่เข้ากัน แต่ดันไปกันได้ แถมทำอาหารได้สะเด็ดสะเด่ามาก

เกิดมาผมไม่เคยเจอใครสอนทำผัดไทยได้มันเท่าพี่แกมาก่อน
ลืมเหล่าเชฟที่มาออกทีวี มาดดีๆ ทำอาหารหรูๆ ทิ้งไปได้เลย

ดิบ เถื่อน สะใจ... และ มังสวิรัติ -_-"

ดูได้จนจบแบบไม่เบื่อด้วย ถึงจะดูแปลกๆ ไปหน่อยก็เถอะ

ว่างๆ แวะไปดูอาหารอื่นๆ ของพี่แกได้ที่เว็บ
http://veganblackmetalchef.com/

ผมล่ะอยากให้เขาทำอาหารไปอีกนานๆ จริงๆนะ...

วันจันทร์, ธันวาคม 12, 2554

ทำขนมปังขนมอบด้วยไมโครเวฟ ใน 5 นาที…

ไปเจอสูตรทำ brownies หรือ muffin ไม่แน่ใจ จากเว็บ 9gag.com

จะว่าเว็บตลก มันไร้สาะก็ไม่ได้นะ ผมเจออะไรเจ๋งๆ มีสาระจากเว็บนี้เยอะเชียว

เอามาลองทำเลย ไปซื้อแป้งเค้กตราว่าวมาห่อนึง
ผงโกโก้ตรานางพยาบาลมีแล้ว นอกนั้นหาได้ในบ้านหมด

ลองทำ ก็ลดสูตรลงตามพอใจ

  • แป้ง 4 ช้อนโต๊ะ ไม่พูน
  • น้ำตาล 3 ช้อน พอ ไม่เอาหวานมาก ไม่พูนนะ
  • น้ำมันพืช เอาแค่ 3 ช้อนพอ กลัวอ้วน
  • ผงโกโก้ตรานางพยาบาล มันแรง เอาแค่ 1.5 ช้อน พอ
  • นมเมจิขวดๆอะ 4 ช้อน มั่วๆ
  • ใส่ไข่ฟองนึง
  • คนๆๆๆ ให้เข้ากันดี

ใส่เตาไมโครเวฟ 3 นาที…

เฮ้ย!

ได้จริงๆ…

0uoST7

หน้าตาอนาถเหมือนขี้มาก เพราะไม่มีแม่พิมพ์ และก็ไม่ได้ตัดแต่ง
แต่รสชาติออกมาโอเคเลย ใช่จริงๆ อร่อยดี เหนียวๆหนึบๆ และทำง่ายมากๆ

เลยลองทำแบบไม่ใส่ไข่ มั่วสูตรเองดูอีกที

  • แป้ง 4 ช้อนเหมือนเดิม
  • ใส่เนยเทียมแทนน้ำมัน แต่ใส่ช้อนเดียว
  • น้ำตาลหน่อยเดียว ช้อนเดียวมั๊ง
  • นม 4 ช้อน
  • ผงฟู ปลายช้อน นิดนึง

แค่นี้แหละ คนๆๆๆๆ ในชามเล็กๆ แล้วก็อบ 3 นาทีเหมือนเดิม

ออกมาเป็น…

049TSV

ขนมปังอะไรสักอย่าง

ลองชิมดู…

7yVjJv

เฮ้ย… กรอบนอกนุ่มในนี่หว่า…
ชุ่มเนยด้วย… รสแนวๆ โรตีบัน เลยนะ ขาดแต่ไม่ได้ใส่กาแฟ

แต่ออกจะแข็งไปนิดหน่อย ความนุ่มคงยังสู้ร้านที่เขาทำขายไม่ได้

เลยพบว่า ขนมปังบางอย่างเนี่ย ทำง่ายมากเลยนะ
และก็ไม่ได้ใช้เครื่องมือยุ่งยากอย่างที่คิดด้วย

ผมใช้แค่ ชาม ช้อน เตาไม่โครเวฟ 1,000 วัตต์ ธรรมดา กับวัตถุดิบตามที่บอก
แค่นี้ก็ได้ขนมทำกินเองง่ายๆ ร้อนๆ ไว้กินกับกาแฟ โดยไม่ต้องเสียเงินซื้อแพงๆ แล้ว

เสียอย่างเดียว ตามสูตรมันดูน่าอ้วนมาก น้ำมันเอย เนยเอย…

ต่อไปจะพยายามทำแบบไขมันน้อยๆ ดูหน่อย

รู้สึกว่า… เริ่มสนุกกับการทำขนมกินเองแบบประหยัดแล้วล่ะ…

วันจันทร์, ธันวาคม 05, 2554

เราโง่กว่าเด็กๆ เสมอ...

ยิ่งคิด ผมก็ยิ่งรู้สึกตัวว่า ทุกวันนี้ผมรู้เรื่องเกี่ยวกับช่วงเวลาปัจจุบัน น้อยกว่าเด็กๆ ชั้นประถมเสียอีก

ผมคิดว่า ช่วงเวลาเป็นเด็ก เป็นช่วงเวลาทองแห่งการเรียนรู้จริงๆ
เรามีทั้งพลังสมองที่ตื่นตัว และการเข้าสังคมที่ทำให้ได้ความเห็นที่หลากหลาย
มีโอกาสได้เข้าถึงหนังสือ และสิ่งที่อยากรู้ มีคนพร้อมอยากป้อนความรู้ให้เรา...

เวลาผ่าน พอเราโตขึ้นเสียอีก ที่เราใช้ความเป็นปัจเจกและอัตตาส่วนตน แยกตัวออกจากคนอื่นมากขึ้นเรื่อยๆ เพราะคิดว่าตัวเองต้องดีต้องเก่งกว่าคนอื่นให้ได้

เราเริ่มมีเพื่อนน้อยลงเรื่อยๆ จากที่เคยเล่นกันได้ทั้งห้อง สามสี่สิบคน ค่อยๆหดเหลือสิบคน ห้าคน สามคน สองคน หรือบางคน ไม่มีเพื่อนเลย มีแค่คนรู้จักธรรมดา

นั่นไม่ใช่การตัดโอกาสเข้าถึงแหล่งความรู้อันหลากหลายหรอกหรือ เพราะด้วยมุมมองอันจำกัดของคนๆ เดียว ย่อมไม่อาจแสวงหาความรู้ได้กว้างขวางเท่ากับสี่ห้าสิบคนแน่ๆ

เราแก่ขึ้น เพื่อเรียนรู้เฉพาะทาง และลดระดับความรู้อันกว้างขวางลง

เด็กๆ สมัยนี้ โตขึ้นมาก็เห็นคอมพิวเตอร์ ได้ใช้ tablet กันแล้ว
เขาไม่เคยเห็นโมเด็มแบบ dial-up ด้วยซ้ำ แต่เขาใช้โปรแกรมสำเร็จรูปเก่งกว่าคนสมัยเราๆ

บางทีเราก็เริ่มตกยุค เพราะสิ่งที่เรารู้และเข้าใจ มันก็เริ่มไม่ใช่อะไรที่อยู่ในเวลาปัจจุบันแล้ว

นี่สินะ... ความรู้สึกของลุงๆป้าๆ พ่อแม่ ที่เราเคยไม่เข้าใจ...

พออายุมากขึ้น... ฉันก็เริ่มจะค่อยๆ เข้าใจแล้ว...

วันพุธ, พฤศจิกายน 30, 2554

หวังน้อยไว้ ไม่ขาดทุน...

หลังผ่านชีวิตมาช่วงหนึ่ง...

ผมเกิดตกผลึกแนวคิดการใช้ชีวิตอย่างหนึ่งออกมาได้ นั่นคือ...
"การหวังน้อย"

ผมสังเกตเห็นว่า ในทุกๆ เรื่องของชีวิตคนเรา สิ่งที่จะนำพาความสุขและความทุกข์มาให้กับเรามากที่สุด ยิ่งกว่าสิ่งอื่นใด นั่นก็คือ ใจของเราเอง

เราจะดีใจ เสียใจ พอใจ หรือผิดหวัง มากน้อย หนักเบา ก็ขึ้นอยู่กับการวางใจของเราเองทั้งนั้น

ผมจึงตั้งใจเอาไว้เสมอเวลาจะทำอะไรคือ หวังให้น้อย เผื่อใจไว้บ้าง
คิดบวกได้ หวังผลได้ แต่ต้องไม่เลยเถิดไปจากเหตุผลและความเป็นจริง

ถ้าเราคาดหวังไว้เยอะ คาดผลเอาไว้สูง
ถ้าผลมันไม่ออกมาอย่างที่ใจเราหวัง เราก็ได้แต่ความผิดหวัง...

ทั้งๆ ที่ความจริงแล้ว มันอาจไม่ได้เลวร้ายอย่างที่เราคิดไปเอง
มันก็ออกมาสมควรตามเหตุที่มันควรจะเกิดอยู่แล้วนั่นแหละ
แต่ใจของเราเองนั่นแหละ ที่ทำโทษตัวเอง ทำร้ายตัวเอง
ทำให้เราไม่พอใจ ทำให้เราผิดหวัง

ผมจึงหวังน้อยๆ น้อยกว่าที่ควรจะเป็นนิดหน่อยได้ยิ่งดี
เพราะถ้าผลออกมาอย่างที่คิดว่าจะเป็น แต่เราหวังน้อยกว่านั้นนี่
นี่แหละ เรียกว่ากำไร เราดีใจกว่าที่หวัง

หรือต่อให้มันพลาดไปจากที่คิด มันแย่กว่านั้น
เราก็ยังหวังเอาไว้น้อยอยู่แล้ว ถึงมันจะแย่ลงไปกว่านั้น
ก็ยังถือว่าขาดทุนนิดเดียว ใจก็ไม่เสียมากมายนัก

กลับกันถ้าเราหวังไว้มาก มากกว่าเหตุอันสมควรจะเกิด
ถ้าผลมันออกมาเท่าที่มันสมควรเกิด กลายเป็นว่าเราผิดหวัง
นี่ก็ขาดทุนแล้ว

ยิ่งถ้าผลออกมาต่ำกว่าสิ่งที่คิดว่าจะเกิด แย่กว่านั้นอีก
แต่เราหวังเอาไว้เสียสูงลิบ อะไรจะเกิดขึ้น...
ใช่.. ความผิดหวังอันมากมาย... ขาดทุนย่อยยับ...

ผมเห็นดังนั้นแล้ว ผมจึงไม่อยากจะขาดทุนทางใจอีก
ไม่มีใครบังคับให้เราคิดเพื่อทำร้ายตัวเอง นอกจากตัวเราเอง

จงคิดบนพื้นฐานแห่งความเป็นจริง และเหตุผล
เผื่อใจเอาไว้ เผื่อว่ามันจะผิดพลั้ง

เพราะสุดท้าย คนที่ให้อภัยเราเป็นคนสุดท้าย
มักจะเป็นตัวเราเอง...

รู้แบบนี้ จะทำร้ายตัวเองไปทำไม...

วันศุกร์, พฤศจิกายน 25, 2554

วันอังคาร, พฤศจิกายน 22, 2554

Indian Talent Show - Warriors of Goja... [video]



American, British, Thailand หรือสารพัดชาติไหนที่ทำ Got Talent หลบไป...

เจอ Indian Talent Show ของพี่แขกเข้าใปหน่อย
กับทีมที่ชื่อว่า Warriors of Goja...

ดูแล้วแบบว่า ได้แต่อุทาน "P#(&%#*(%*#" ไปตลอดเวลา
เล่นจริงเจ็บจริง ยิ่งกว่าหนังปรัชญา โทนี่ จา ปะทะ จีจ้า เสียอีก...

เอาตำแหน่งชนะเลิศให้พี่เขาไปเลยครับ
แทบจะคุกเข่าเข้ามอบเงินรางวัลให้กันเลยทีเดียว...

India is so amazing... มากๆ

โอ้มายบุดด้า...

วันจันทร์, พฤศจิกายน 21, 2554

เพลงเปาบุ้นจิ้น version Google แปลภาษา



ฮาแบบไม่เอาลง Blog ไม่ได้แล้ว...

ขำแทบสำลัก... คนทำตั้งใจมาก... ลงทุกเม็ด...

ROFL...

วันศุกร์, พฤศจิกายน 11, 2554

ต้องลำบาก เราถึงรักกันได้...

แปลกดี...

ผมเห็นพักนี้คนไทยรักกันดีผิดหูผิดตา...

ช่วงนี้น้ำท่วมใหญ่ เวลามีใครเดือดร้อนต้องการความช่วยเหลือ
ก็จะเห็นมีคนเสนอตัวเอานู่นเอานี่มาช่วยตลอด ทั้งให้ยืม ให้ฟรี มากมาย...

ผมมาย้อนคิดดู ตอนที่ไม่มีเหตุร้ายแรงภัยธรรมชาติอะไรพวกนี้
ทำไมพวกเราไม่รักกันเท่าตอนนี้?...

ช่วงเวลาปกติ เห็นก็เอาแต่แก่งแย่งชิงดี มีอะไรก็ไม่ให้คนอื่นยืม
เข้าทำนอง "ไม่อยากเห็นคนอื่นได้ดี"

หรือคนเราต้องเห็นคนอื่นลำบากสุดๆ ก่อน
ต่อมคนดีถึงจะถูกกระตุ้นให้ทำงาน?

ไม่รู้ว่าเป็นอุปาทานหมู่ หรืออะไรก็ช่าง
ผมก็ว่ามันดี ที่เห็นคนเราช่วยเหลือกันยามเดือดร้อน

แต่ผมอยากเห็นความรู้สึกประมาณนี้ อยู่ไปจนถึงตอนที่เราต่างไม่เดือดร้อน

ทำไมตอนปกติ บ้านใกล้เรือนเคียงกัน แทบไม่เคยคุยกัน
ไม่เห็นถามสารทุกสุขดิบกัน ไม่ถามว่าเขาขาดเหลืออะไร อยากได้อะไร

ไม่ให้อะไรๆ กันได้ง่ายๆ กันแบบตอนนี้...

ถ้าสังคมโลกเป็นแบบนี้ต่อไปเรื่อยๆ โลกเราอาจจะมีความสุขมากกว่าอีกมากก็ได้

ผมคงจะได้แค่ฝันไป...

น้ำลด คนไทยก็กลับมากัดกันต่อไป
อิจฉาริษยา แก่งแย่งชิงดีกันเหมือนเดิม...

ไม่นับพวกมีอำนาจหรอกนะ... คนพวกนั้นน่ะ ให้โลกแตก ก็ยังจะเอาเปรียบคนอื่นอยู่ดี...

วันพฤหัสบดี, พฤศจิกายน 10, 2554

วันจันทร์, ตุลาคม 31, 2554

สิ่งที่เพิ่งรู้เอาตอนแก่ : พัดลม...

เรื่องมันมีอยู่ว่า...
ผมไปเจอเว็บขายของ แล้วก็สนใจซื้อเจ้าเครื่องวัดอุณหภูมิแบบนี้มา...



มันคือ Digital Infrared Thermometer with Laser Pointer
หรือพูดง่ายๆ คือปืนวัดอุณหภูมิด้วยแสงอินฟาเรด นั่นเองครับ...
ใครสนใจกดลิงค์ไปสั่งซื้อกันเองได้ ไม่แพงครับ :)

ซื้อมันมาเพื่อสนองความอยากรู้อยากเห็นส่วนตัวครับ
เพราะผมเป็นคนชอบวัดสิ่งต่างๆรอบตัวให้เห็นออกมาเป็นค่าที่จับต้องได้

อุณหภูมิก็เช่นกัน คุณไม่เคยสงสัยเหรอครับ ว่ากาแฟที่คุณดื่มร้อนกี่องศา
หรือผนังห้องที่คุณว่าร้อนๆ มันร้อนกี่องศา ฯลฯ

สรุปว่า ผมซื้อมาก็วัดเล่นไปเรื่อยๆ อย่างกาน้ำร้อน แบบรุ่นปกติ มันร้อนราว 70 กว่าองศาเท่านั้นเองครับ
ไม่ถึง 100 องศา ดังนั้น กาต้มน้ำทั่วไป มันต้มน้ำไม่เดือดล่ะ ฆ่าเชื้อโรคไม่ได้หมดด้วย
อันนี้ผมเพิ่งรู้...

อีกอย่างที่สงสัยมาก และวัดจนรู้คือ... พัดลม...

ใช่ครับ คุณต้องเคยใช้พัดลมมาแล้วแน่ๆ ใครไม่เคยใช้ก็นับว่าแปลกล่ะ
แต่คุณเคยสงสัยมั๊ย ว่าพัดลมทำให้เราเย็น แล้วตัวมันเองล่ะ เย็นด้วยหรือเปล่า?

ผมวัดแล้ว หายสงสัยแล้วครับ... :D

ผมจะสรุปให้ฟังง่ายๆ ก็แล้วกันครับว่า...

  • พัดลมจะเป่าลมที่มีอุณหภูมิเท่าอุณหภูมิห้อง ซึ่งก็คืออุณหภูมิอากาศ
  • ใบพัดของพัดลมที่หมุนอยู่ ก็ไม่เย็นไปกว่าอุณหภูมิของอากาศครับ
  • ลองเอาพัดลมพัดไปยังสิ่งของ แล้ววัดอุณหภูมิ ผลคือ มันไม่เย็นลงครับ เท่าอุณภูมิอากาศเหมือนเดิม
ทีนี้ ก็กลับมาที่พื้นฐานความรู้ทางวิทยาศาสตร์สมัยประถม ที่ผมลืมไปแล้วครับ
นั่นคือการที่เราโดนพัดลมแล้วเย็น เป็นเพราะอากาศที่เคลื่อนไหว จะพาให้เหงื่อเราระเหยออกไปด้วย
และพอเหงื่อระเหยไป ก็พาความร้อนออกไปด้วยนั่นเองครับ

ดังนั้น ถ้าเราไม่มีเหงื่อ หรือโลกนี้ไม่มีการระเหยของน้ำ
พัดลม ก็จะไม่มีประโยชน์ในการลดความร้อนให้เราได้เลยครับ

เกิดซาโตริแบบแปลกๆ ขึ้นมาในตอนนั้น เหมือนตัวเองเชื่ออะไรแปลกๆมาตลอด

ดังนั้น การเปิดพัดลมทิ้งไว้ในห้องที่ร้อน ไม่ได้ช่วยให้ห้องเย็นขึ้นครับ
เพราะยังไง ห้องก็ร้อนเท่าอุณหภูมิของอากาศอยู่ดี

ยกเว้นว่า ห้องจะร้อนกว่าเพราะแดดส่อง การระบายอากาศที่เย็นกว่าเข้ามา
แล้วใช่พัดลมเป่าอากาศที่เย็นกว่า ไปยังวัตถุที่ร้อนกว่า นั่นเป็นเรื่องเป็นไปได้ครับ

ดังนั้น ปริศนาในชีวิต 1 อย่างของผม ก็จบไปแล้วคือ

พัดลม ต้องเป่ากับตัวคนที่มีเหงื่อครับ เราถึงจะเย็น...

และดังนั้น พัดลมที่ผ่านน้ำ หรือไอน้ำ มันก็ทำให้ลมเย็นเท่ากับอุณหภูมิน้ำครับ ถ้าใส่น้ำปกติ ก็ไม่เย็นกว่าปกติ ยกเว้นใส่น้ำแข็ง

จบครับ... :)


วันจันทร์, กันยายน 26, 2554

6 anniversary at exteen.com




วันนี้ (26 กันยายน 2554) เป็นวันครบรอบ 6 ปีสินะ ของการมาเป็นสมาชิกของ exteen.com
ถือว่าเป็นวันแรกของการกลับมาเขียน blog ด้วย หลังจากร้างไปนาน (แบบเดียวกับทุกวันนี้เลย)

ยังไงก็ขอบคุณ exteen ที่ยังอยู่มาจนถึงวันนี้
ทำให้ได้เจอคนหลากหลายรูปแบบ
บ้างก็คุยผิวเผิน บ้างก็ได้เจอหน้ากัน

ขอบคุณ @tpagon และ @ipats ที่ทำ exteen ขึ้นมา

ขอบคุณผู้อ่านทุกท่าน ที่แวะมา
ถึงแม้จะนานๆ ทีจะเขียน แต่ก็ยังไม่ทิ้งไปเฉยๆหรอกครับ...

พบกันใหม่ เมื่ออะไรดลใจ...

วันจันทร์, สิงหาคม 29, 2554

วันพุธ, สิงหาคม 24, 2554

ความฟุ้งซ่าน รำคาญใจ...

ฉันเป็นคนที่ตื่นขึ้นมาทุกเช้าด้วยความรู้สึกไม่พอใจในชีวิตตัวเองตลอดเวลา
ฉันรู้สึกว่า ฉันควรจะมีชีวิตที่ดีกว่านี้ ฉันควรทำได้ดีกว่านี้

อาจเป็นเพราะฉันยังคงเป็นแค่คนห่วยๆ ที่หมกมุ่นกับการพิสูจน์ตัวเองก็ได้
ฉันยังไม่พอใจในทุกสิ่งที่ประกอบขึ้นมาเป็นชีวิตของฉัน

บางอารมณ์ ฉันก็ปลง ทำใจ
แต่สิ่งแวดล้อมก็บีบบังคับว่า ไม่ได้นะ ห้ามหยุด แกต้องวิ่ง วิ่งไปจนกว่าแกจะตาย...

หรือฉันต้องพยายามวิ่งไปจนตายจริงๆ...

วันพุธ, สิงหาคม 03, 2554

Coffee Song...

อุ๊ย อ๋าส์.. บ่ายแล้วไม่รู้กินอะไร๊ กินน้ำนมน้ำเปล่าก็ไม่หาย ง่วงจริ๊งง่วงจนแทบตาย บ่ายสามทีไรละเริ่มง่วงทุกที... อ๊าาส์.. อู๊ยส์...
 
พี่จ๋าหากาแฟให้หนูหน่อย ไม่งั้นต้องคอยหลับอยู่อย่างนี้ จะถ้วยละหมื่นก็ได้ถ้ากาแฟดี ถ้าของเขาดีหนูนี่คงหายมึน... อ๊าส์...
 
ไร้สาระโคตรๆ... -_-"

วันอังคาร, มิถุนายน 28, 2554

ยิ้มเปลี่ยนโลก...

คุณคิดว่าคุณต้องเป็นคนยิ่งใหญ่แค่ไหน ถึงจะสามารถจะเปลี่ยนแปลงโลกใบนี้ได้? จำเป็นไหมที่จะต้องมีอำนาจ เป็นผู้นำประเทศ หรือมหาเศรษฐี ถึงจะสร้างความแตกต่างให้กับโลกใบนี้ได้ ความเปลี่ยนแปลง ไม่จำเป็นที่จะต้องเป็นเรื่องยิ่งใหญ่ ยาก หรือมีมูลค่ามหาศาล เพียงสิ่งเล็กๆ จากหลายๆ หน่วย ที่รวมตัวกันอย่างสอดคล้อง ก็อาจจะก่อให้เกิดสิ่งใหญ่ๆ และส่งผลอย่างยิ่งใหญ่ได้เช่นกัน
ทุกวันนี้เราตื่นมาพร้อมกับความรู้สึกว่าโลกนี้มันเลวร้ายลงทุกวัน แต่ด้วยความจริงว่าโลกนี้ประกอบจากผู้คน โลกจะดีหรือจะไม่ดี ก็เกิดจากผู้คนในโลกนี้นั่นเองที่ร่วมกันทำ มองในแบบที่ว่าโลกใบนี้บรรจุหน่วยของความสุข และหน่วยของความทุกข์อยู่ แทนที่เราจะได้แต่พร่ำบ่นถึงความไม่ดีของโลกและหลับไปด้วยความรู้สึกหมดหวังต่อโลก เราน่าจะเริ่มทำอะไรดีๆ เพื่อเติมหน่วยความสุขให้กับโลกใบนี้จะดีกว่า
            ประเทศไทย เคยได้ชื่อว่า The land of smile หรือ สยามเมืองยิ้ม ชื่อที่คนต่างชาติรู้จักกันดี แต่ทุกวันนี้มองไปทางไหน กลับหารอยยิ้มบนใบหน้าของคนไทยได้ยากเหลือเกิน ไม่ว่าจะเป็นเพราะสภาพเศรษฐกิจและการใช้ชีวิตที่เปลี่ยนไป ทำให้คนไทยต้องอยู่ในสภาพที่อมทุกข์ และพากันปลดปล่อยบรรยากาศแห่งความทุกข์ออกมารอบๆ ตัว คนสมัยนี้ต้องจ่ายเงินเพื่อซื้อความสุขชั่วคราว เช่นดูหนัง ฟังเพลง ฯลฯ เราวิ่งหาความสุขแบบดึงเข้าหาตัว เสพสื่อบันเทิงเพื่อให้เกิดความสุขกับตัวเราเพียงเท่านั้น แต่กลับไม่สามารถแบ่งความสุขนี้ให้กับคนรอบข้างได้ หรือได้แบบที่ลำบากสิ้นเปลือง หลงลืมการแบ่งปันความสุขแบบง่ายๆ ที่ทำได้ทันที และฟรีด้วย นั่นคือการ “ยิ้ม”
            การยิ้มทางกายจะส่งผลให้เกิดความสุขทางใจได้ หรือแม้แต่การเห็นคนอื่นยิ้มตัวเราก็พลอยจะมีความสุขไปด้วย และเคยสังเกตไหมว่า รอยยิ้มและความสุขเป็นเหมือนโรคติดต่อ ที่แพร่ไปได้โดยง่าย เพียงแค่เรายิ้ม และคนอื่นมาเห็นเรายิ้ม เขาก็อาจเผลอยิ้มตามไปแบบไม่รู้ตัว นั่นคือเราได้กระจายความสุขให้กับเขาได้สำเร็จแล้ว และถ้าคนๆ นั้น ไปยิ้มให้คนอื่นเห็นอีก รอยยิ้มก็จะแพร่กระจายออกไปแบบทวีคูณ จากหนึ่งเป็นสอง จากสองเป็นสี่ จากสี่เป็นสิบ เป็นร้อย เป็นพัน ได้โดยไม่ต้องเสียอะไรเลย นอกจากรอยยิ้มอย่างมีความสุขของคนเพียงหนึ่งคน
            เราสามารถเปลี่ยนตัวเอง ให้เป็นเครื่องมือเผยแพร่ความสุขได้ง่ายๆ โดยการเรียกรอยยิ้มและความสุขให้มาอยู่กับเราทุกเช้า เพียงติดภาพรอยยิ้มที่เราชอบหรือคำว่า “ยิ้ม” ไว้บนกระจกบานแรกที่เราจะส่องทุกเช้า เตือนตัวเองให้เริ่มต้นวันด้วยการยิ้มให้กับตัวเองก่อน เรียกพลังแห่งความสุขให้ตัวเอง ปล่อยความเครียดและความทุกข์ให้เป็นของวันที่ผ่านไปแล้ว และสัญญากับตัวเองว่าจะส่งพลังแห่งความสุขนี้ ผ่านรอยยิ้มของตัวเอง ไปยังผู้อื่น อย่างน้อยวันละ 5-10 คน โดยช่วงแรกอาจเริ่มจาก 1-2 คนก่อน และค่อยๆ เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ตามวันที่ผ่านไป โดยยิ้มให้กับคนแปลกหน้าที่บังเอิญสบตากันตอนยืนรอรถโดยสาร ตอนติดไฟแดง ตอนขึ้นลิฟต์ หรือระหว่างเดินไปทำงาน และไม่ลืมยิ้มให้คนที่เรารู้จัก คนที่เราทำงานด้วย เพื่อให้เกิดยิ้มติดต่อกันแพร่ไป และทำให้เกิดการแลกเปลี่ยนพลังแห่งความสุขให้กันและกันทั้งคนที่รู้จักกัน และไม่รู้จักกัน
            ง่ายๆ เพียงเท่านี้ ก็นับว่าได้สร้างความสุขแบบง่ายๆ ให้กับตัวเองและคนรอบข้างได้แล้ว เป็นการเปลี่ยนสังคมให้มีหน่วยความสุขเพิ่มขึ้นแบบง่ายๆ เริ่มจากตัวเอง ซึ่งอาจก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงไปยังสังคมระดับใหญ่ได้แบบไม่รู้ตัว และไม่ต้องลงทุนอะไรมากมายเลย เรามาเพิ่มหน่วยความสุขให้กับโลกใบนี้ด้วยกันเถอะ... 

ง่ายๆ แค่ยิ้ม...


วันเสาร์, พฤษภาคม 07, 2554

พิจารณา tablet ที่อยากถอย...

อยากซื้อ tablet แต่ต้องชั่งระหว่างราคากับประสิทธิภาพ
  • iPad 2 ดูจะสด และน่าสนใจ ในแง่ว่ามี app สวยๆเยอะ แต่ปัญหาคือถ้าไม่ jailbreak สำหรับชีวิตผมมันดูจะใช้ได้ไม่คุ้มค่าไปหน่อย และประสิทธิภาพของกล้องก็ไม่ได้น่าประทับใจอะไร แค่พอถูไถแก้ขัด
  • Galaxy Tab 7" ราคาลงมาเหลือ 14,900 แล้ว นับว่าล่อตาล่อใจมาก แต่ก็อย่างว่า ถ้าจะให้พกแทนโทรศัพท์ไปเลย ก็ใหญ่ไปนิด กล้องก็ไม่ได้น่าประทับใจอะไรเช่นกัน มาวันนี้นับว่าเริ่มตกยุคนิดๆ ไม่สดแล้ว
  • Galaxy Tab wifi ติดเรื่องประสิทธิภาพที่ลดลง จากตัว 3G แต่ถ้าไม่คิดมาก ก็ถูกดีนะ เล่นขำๆ หมื่นนิดๆ แต่ก็อย่างว่า ใช้แก้ขัดได้ถ้าไม่คิดมาก เริ่มตกยุคเช่นกัน
  • Acer Iconia Tab มีแต่ wifi และมาแต่รุ่น 32GB เปิดราคารวม vat ปาไปสองหมื่น... แพง! รอลดก่อน
  • Asus Eee Pad รอดูราคาอยู่ เพราะยังโอเคกับความรู้สึกตอนใช้ Eee PC ถ้ามาไม่แพง ประกันดี น่าเล่น แถมมีอุปกรณ์เสริมเป็น keyboard อีกต่างหาก ใช้พิมพ์งานเล่นเน็ตขำๆ พอได้ด้วย
  • Motorola Xoom นี่ก็แรง น่าเล่น ราคา 21,900 สวย แพงไม่ว่า แต่ชื่อ moto ดันเสียตรงกั๊กไม่ให้ root ง่ายๆ แถมไม่รู้อนาคตจะหา rom มาเล่นได้ง่ายเท่า samsung กับ htc ไหม
  • HTC Flyer ไม่มาสักที รอดูราคา ซึ่งจริงๆ มันมี feature น่าใช้เอามากๆ เรียกว่าเป็น companian ที่ดีเลยสำหรับคนทำงานที่ชอบบันทึก มีปากกาด้วย... ว่าแต่ แพงแหงๆ ราคาลือมาปาไป 28,000 ไม่รู้ราคาจริงเท่าไหร่ และก็รอ 6 เดือน ให้มันราคาตกวูบๆ ตามสไตล์ HTC ซึ่ง ดูไปก่อนดีกว่า

สรุปตอนนี้ เลยกำเงินแน่นๆ ไปก่อน

พยายามจะไม่รีบใช้เงิน... netbook ก็ยัง ok ใช้ได้ใช้ไป...

วันจันทร์, พฤษภาคม 02, 2554

ไอศกรีมมะม่วง ร้าน Black Canyon...

great on Twitpic

ไปแวะกินกาแฟร้าน Black Canyon
เห็นเมนูอาหารพิเศษช่วงนี้มีเจ้าไอศกรีมมะม่วง ลดราคาเหลือ 49 บาท เลยลองซะ

มีไอศกรีมมะม่วง 1 ลูก
เยลลี่มะม่วงสอดไส้วุ้นมะม่วง
ข้าวเหนียวมูน โรยมาด้วยมะม่วงหิมพานต์

เสียดายตัวเยลลี่กับข้าวเหนียวมันอุ่นไปหน่อย
แต่ตัวไอศกรีมอร่อยมาก อร่อยกว่าของ Swensen เสียอีก

เทียบแล้วราคาพอไหว อร่อยดี

verdict: เป็นรสมะม่วงที่อร่อยกว่าของ Swensen ใกล้เคียงกับ Baskin Robbin

วันพฤหัสบดี, เมษายน 28, 2554

Royal Wedding Countdown...



รอชมครับ...

งานใหญ่ระดับนี้ ชีวิตนึงคงไม่ได้ดูบ่อยๆ

ไว้จบงานจะหาโหลด video แบบ HD มาเก็บไว้ด้วย...

วันอาทิตย์, มีนาคม 06, 2554

วันจันทร์, กุมภาพันธ์ 07, 2554

Nokia N8 firmware PR1.1 ออกแล้ว…

ท่านใดใช้ Nokia N8 สามารถ update Nokia N8 ของท่านได้แล้ว
เข้าเมนู อัพเดตอุปกรณ์ หรือ กด *#0000# แล้วกดเมนู เลือกอัพเดต
หรือเชื่อต่อ Ovi Suite บน PC ของท่าน

ขนาด download ไม่ใหญ่ โหลดไม่นาน
อัพแป๊บเดียวเสร็จครับ

สิ่งที่เห็นในเบื้องต้น

  • มีเมนูภาพพื้นหลังแบบเคลื่อนไหว เพิ่มขึ้นมา
  • เวลาหมุนจอ หมุนได้เร็วขึ้นแบบรู้สึกได้ แทบไม่มีหน่วงแล้ว
  • ดูเครื่องจะทำงานเร็วขึ้นนิดๆนะ
  • quickoffice สามารถแก้ไขเอกสารได้แล้ว!

นอกนั้น ก็ลองเล่นดูครับ

วันพฤหัสบดี, กุมภาพันธ์ 03, 2554

Happy Chinese New Year 2011…

  • 新年发财,红包大大个。ซินนี้ฮวดไช้ อั่งเปาตั่วๆ ไก๊... คำนี้ออกเสียงแต้จิ๋วเท่านั้น เป็นจีนกลางแล้วตลก新正如意,新年发财。ซินเจียยู่อี่ ซินนี้ฮวดไช้ = ปีใหม่สมใจปรารถนา ปีใหม่ให้รวยให้รวย
  • ซินนี้ ฮวดไช้=新年发财 Xīnniánfācái ซินเหนียนฟาฉาย, ซินเหนียน=ปีใหม่, ฟาฉาย=ร่ำรวย (ในรูปของ Verb)>>ปีใหม่รวยๆ เด้อ อารมณ์นี้
  • อั่งเปาตั่วๆ ไก๊ แปลว่า ซองแดงซองใหญ่ๆ เอ่อ... รู้จักซองแดงกันใช่ไหม=红包 Hóngbāo หงเปา (อั่งปา)
  • ซินเจียยู่อี่=新正如意 Xīnzhēngrúyì ซินเจิ้ง หรูอี้, ซินเจิ้ง แปลว่าปีใหม่เดือนแรก หรูอี้ แปลว่า สมใจนึก, สมปรารถนา
  • 苹果 Píngguǒ ผิงกั่ว แปลว่าแอปเปิ้ล 平安 Píng'ān ผิงอาน แปลว่าอยู่เย็นเป็นสุข
  • 橘子 Júzi จี๋ว์จื่อ แปลว่าส้ม 吉利 Jílì จี๋ลี่ แปลว่าสิริมงคล

via http://twitter.com/#!/pasajeen

ขอให้ทุกท่านการงานเจริญก้าวหน้า การค้ารุ่งเรือง ร่ำรวย สมปรารถนา สุขภาพแข็งแรง…

ปีกระต่าย แล้วเน้อ…

วันจันทร์, มกราคม 17, 2554

บัตรลด Swensen’s 2011...

  • บัตรลดประจำปี 2011 มาแล้ว ทำได้น่าจะทุกสาขา
  • เจอพนักงานล่อหลอก เลยทำเป็นครั้งแรก เจอไป 159 บาท
  • มีคูปอง รับไอศกรีมฟรี 1 สกู้ป และมีโปรพิเศษทุกเดือน รวมถึงทุกวันอังคาร ซื้อ 1 แถม 1
  • ถ้ากินบ่อยๆ คงคุ้ม แต่ผมนี่ ท่าจะไม่คุ้ม ปีก่อน เข้าไป 3 ครั้งได้
  • ไม่รู้ว่าจะทำทำไม แต่ก็ทำ
  • เอาไว้ให้คนอื่นยืมก็ละกัน…
  • เสียดาย baskin robbin
  • ette ก็แจ่มนะ บางแบบก็ไม่แพง
  • สเวนเซ่นคนเยอะมาก หาที่นั่งแทบไม่ได้ ในบางสาขา
  • แล้วจะบ่นทำไมเนี่ย
  • ช่างมันเถอะ…
  • ภาพใหญ่ดีเนอะ…
  • จบ

วันอาทิตย์, มกราคม 16, 2554

วิธีอุ่น ทาร์ตไข่ KFC ด้วยไมโครเวฟ…

ค้นพบวิธีอุ่นทาร์ตไข่ KFC ที่กินไม่หมดแล้วเอาไปแช่เย็นแล้ว…

ซื้อมาหลายชิ้น กินตอนร้อนก็อร่อยดี
แต่พอเย็นแล้วเนี่ยสิ ทั้งเหนียว ทั้งชืด ไม่อร่อยเอามากๆ

เอาไปแช่เย็นเลยครับ กันมันเสีย…

ตอนไหนอยากกิน เอาออกมา แล้วอุ่นในไมโครเวฟ 1 นาที
อุ่นในกล่องเลยก็ได้ ปิดฝาไว้

ตอนแรกเห็นมันมันๆ นึกว่าจะไหม้เอาง่ายๆ
แต่ลองแล้ว ไม่ไหม้นะ ถ้ามันออกมาเย็นๆ จากตู้เย็น

อันนี้อาจจะแล้วแต่ watt ของเตาอบ ให้คอยดูเอาด้วย

แต่เตาบ้านผม 1 นาที กำลังดี
เสร็จแล้วเอาออกมาผึ่งให้เย็นตัวลงเล็กน้อย

แป้งด้านนอกจะกลับมากรอบได้ ไม่มากเท่าใหม่ๆ แต่ดีกว่ากินเย็นๆแน่
ความหอมก็จะกลับมาด้วย

ลองทำดูครับ ไม่ยาก ไม่เปลือง…

Technorati Tags: ,,,,,

วันพุธ, มกราคม 12, 2554

เพิ่งได้กิน ทาร์ตไข่ KFC (egg tart)…

 

วันนี้ เพิ่งได้กินทาร์ตไข่ของ KFC หลังจากมันวางตลาดมาน่าจะร่วมเดือนแล้ว

  • ห่อสวย ชิ้นเล็กกว่าที่คิดเล็กน้อย
  • ชิมแล้ว พบว่าแป้งกรอบร่วน ไส้กึ่งแข็งกึ่งอ่อน
  • ตัวแป้ง ให้ความรู้สึกเหมือนกินโรตีแขกรถเข็น
  • ตัวไส้ เหมือนคัสตาร์ดที่ไม่เละ ไม่หวานจัด

ถ้าให้สรุปรสชาติ ต้องบอกว่า พอกินได้
แต่อร่อยขนาดคุ้มค่า 25 บาท ไหม… ผมว่ายังไม่ถึง

ส่วนจะซื้อซ้ำไหม… อาจจะ แต่คงไม่บ่อย

และสุดท้าย after taste ที่อยู่ในปาก มันทิ้งรสแปลกๆเอาไว้ที่โคนลิ้น บอกไม่ถูก

verdict : ซื้อชิมได้ นานๆที ถ้ารวยค่อยกินบ่อยๆ…

วันอาทิตย์, มกราคม 09, 2554

งานแห่เจ้าพ่อทับสำโรง 2554...

วันอาทิตย์ที่สองของเดือนมกราคม เป็นวันจัดงานแห่เจ้าพ่อทับสำโรงประจำปีครับ

ปีนี้จัดยิ่งใหญ่ เพราะโตโผใหญ่ คือเจ้าของร้านทองดำรงค์ชัย
และเป็นกรรมการใหญ่ ศาลเจ้าพ่อด้วย

แห่แต่เช้า แต่ผมไม่ได้ออกไปดูครับ ไปดูตอนขาวนกลับช่วง 11 โมงแล้ว

ปีนี้ยิ่งใหญ่อย่างเขาว่าจริงๆ คนเยอะ ขบวนยาว
มังกรที่เห็นสองตัว และที่ไม่เห็นอีก สิงโตอีก…

ดูคลิปสั้นๆ 720p ได้ครับ…

แล้วก็ข่าว 3 ช่วงเย็น มีมาออกอีกนิดหน่อย…

ผมไม่ได้รอดูจนรถแห่เจ้าพ่อผ่านเหมือนปีก่อนครับ เพราะจะไปที่อื่นต่อ
เลยไม่ได้ถ่ายภาพใกล้ๆ และก็ไม่ได้เห็นการแสดงทั้งหลายด้วย

ปีนึงมีอะไรอย่างนี้ทีก็ดีนะครับ ครึกครื้นดี…

วันเสาร์, มกราคม 01, 2554

สวัสดีปีใหม่ พ.ศ.2554…

สวัสดีปีใหม่ พ.ศ. 2554 ครับ

  • ขอกล่าวไว้อาลัยปีเก่าที่ผ่านไปสักเล็กน้อย
  • ปี 2553 ที่ผ่านไป เป็นปีเสือ ที่ดุมากจริงๆ
  • ชีวิตผมมีปัญหาตั้งแต่ต้นปี และต่อเนื่อง ลากยาว เรื้อรัง ขึ้นลง มายันวันนี้ ก็ยังไม่จบสิ้น
  • เรื่องดีๆ ก็มีบ้าง แต่ก็ใช่ว่าจะน่าจดจำนัก มันเล็กน้อยเกินไป
  • ไม่มีอะไรตื่นเต้น ทำทุกอย่างด้วยความจำเจ และไร้สีสัน
  • ชีวิตมีแต่ทำตามหน้าที่
  • เป็นปีแห่งความหมดตูด เงินไม่เหลือเลย
  • ปีใหม่นี้ ก็หวังว่าจะมีสิ่งดีๆ เกิดขึ้นแก่คนไทยทุกท่าน โดยเฉพาะท่านผู้อ่านทุกคน
  • ไม่อยากจะหวังอะไรมากนัก เพราะหวังก็ผิดหวังเปล่าๆ
  • ก็ขอให้ทุกท่านใช้ชีวิตอย่างไม่ประมาท และทำชีวิตให้ดีที่สุดเท่าที่จะมีกำลังทำได้
  • และได้เจอสิ่งดีๆ…

ขอบคุณที่เข้ามาอ่าน และติดตามกันมาตลอด…

สวัสดีปีใหม่ พ.ศ.2554 ตามปฏิทินเกรโกเรียน ขอให้มีความสุขความเจริญ คิดสิ่งใดก็ขอให้สมดังปรารถนา สุขภาพแข็งแรง

ขอบคุณครับ…

Technorati Tags: ,,

อายุขัยของมนุษย์ในบริบทสมมุติ: 40 ปีถึง 100,000 ปี

การเพิ่มหรือลดอายุขัยของมนุษย์ส่งผลต่อทุกแง่มุมของชีวิต ตั้งแต่ความคิดส่วนบุคคลไปจนถึงวิวัฒนาการของสังคม วัฒนธรรม และเทคโนโลยี ต่อไปนี้คือภา...