วันพุธที่ 30 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554

หวังน้อยไว้ ไม่ขาดทุน...

หลังผ่านชีวิตมาช่วงหนึ่ง...

ผมเกิดตกผลึกแนวคิดการใช้ชีวิตอย่างหนึ่งออกมาได้ นั่นคือ...
"การหวังน้อย"

ผมสังเกตเห็นว่า ในทุกๆ เรื่องของชีวิตคนเรา สิ่งที่จะนำพาความสุขและความทุกข์มาให้กับเรามากที่สุด ยิ่งกว่าสิ่งอื่นใด นั่นก็คือ ใจของเราเอง

เราจะดีใจ เสียใจ พอใจ หรือผิดหวัง มากน้อย หนักเบา ก็ขึ้นอยู่กับการวางใจของเราเองทั้งนั้น

ผมจึงตั้งใจเอาไว้เสมอเวลาจะทำอะไรคือ หวังให้น้อย เผื่อใจไว้บ้าง
คิดบวกได้ หวังผลได้ แต่ต้องไม่เลยเถิดไปจากเหตุผลและความเป็นจริง

ถ้าเราคาดหวังไว้เยอะ คาดผลเอาไว้สูง
ถ้าผลมันไม่ออกมาอย่างที่ใจเราหวัง เราก็ได้แต่ความผิดหวัง...

ทั้งๆ ที่ความจริงแล้ว มันอาจไม่ได้เลวร้ายอย่างที่เราคิดไปเอง
มันก็ออกมาสมควรตามเหตุที่มันควรจะเกิดอยู่แล้วนั่นแหละ
แต่ใจของเราเองนั่นแหละ ที่ทำโทษตัวเอง ทำร้ายตัวเอง
ทำให้เราไม่พอใจ ทำให้เราผิดหวัง

ผมจึงหวังน้อยๆ น้อยกว่าที่ควรจะเป็นนิดหน่อยได้ยิ่งดี
เพราะถ้าผลออกมาอย่างที่คิดว่าจะเป็น แต่เราหวังน้อยกว่านั้นนี่
นี่แหละ เรียกว่ากำไร เราดีใจกว่าที่หวัง

หรือต่อให้มันพลาดไปจากที่คิด มันแย่กว่านั้น
เราก็ยังหวังเอาไว้น้อยอยู่แล้ว ถึงมันจะแย่ลงไปกว่านั้น
ก็ยังถือว่าขาดทุนนิดเดียว ใจก็ไม่เสียมากมายนัก

กลับกันถ้าเราหวังไว้มาก มากกว่าเหตุอันสมควรจะเกิด
ถ้าผลมันออกมาเท่าที่มันสมควรเกิด กลายเป็นว่าเราผิดหวัง
นี่ก็ขาดทุนแล้ว

ยิ่งถ้าผลออกมาต่ำกว่าสิ่งที่คิดว่าจะเกิด แย่กว่านั้นอีก
แต่เราหวังเอาไว้เสียสูงลิบ อะไรจะเกิดขึ้น...
ใช่.. ความผิดหวังอันมากมาย... ขาดทุนย่อยยับ...

ผมเห็นดังนั้นแล้ว ผมจึงไม่อยากจะขาดทุนทางใจอีก
ไม่มีใครบังคับให้เราคิดเพื่อทำร้ายตัวเอง นอกจากตัวเราเอง

จงคิดบนพื้นฐานแห่งความเป็นจริง และเหตุผล
เผื่อใจเอาไว้ เผื่อว่ามันจะผิดพลั้ง

เพราะสุดท้าย คนที่ให้อภัยเราเป็นคนสุดท้าย
มักจะเป็นตัวเราเอง...

รู้แบบนี้ จะทำร้ายตัวเองไปทำไม...

15 ตัวอย่างการตลาดที่ผิดพลาดของแบรนด์ใหญ่

1. Hoover: โปรโมชั่น "บินฟรี" ที่ล้มเหลว (1992) ที่มา: Hoover ต้องการกระตุ้นยอดขายเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ตกต่ำในยุโรป จึงเสนอโปรโมชั่น ...