Social Credit System หรือที่เรียกกันในบางครั้งว่า ระบบเครดิตสังคม เป็นหนึ่งในนโยบายที่รัฐบาลจีนพัฒนาเพื่อสร้างความน่าเชื่อถือและส่งเสริมพฤติกรรมที่ดีในสังคม โดยระบบนี้มีทั้งความซับซ้อนและข้อถกเถียงในระดับสากล เนื่องจากผลกระทบต่อสิทธิเสรีภาพส่วนบุคคลและชีวิตประจำวันของประชาชนจีน ในบทความนี้เราจะพาไปสำรวจว่า Social Credit System คืออะไร ทำงานอย่างไร และมีผลกระทบต่อคนจีนอย่างไรบ้าง
หลักการทำงานของระบบ Social Credit System
1. การรวบรวมข้อมูล
ข้อมูลพฤติกรรมของประชาชนและองค์กรจะถูกเก็บรวบรวมจากหลายแหล่ง เช่น:
- การเงินและธุรกิจ: การชำระหนี้ การใช้บัตรเครดิต การเสียภาษี และการทำตามสัญญาทางธุรกิจ
- พฤติกรรมในสังคม: การปฏิบัติตามกฎหมาย ความประพฤติในที่สาธารณะ เช่น การข้ามถนนโดยไม่รอสัญญาณไฟ หรือการสูบบุหรี่ในที่ห้ามสูบ
- กิจกรรมออนไลน์: การโพสต์หรือแชร์เนื้อหาที่เข้าข่ายผิดกฎหมาย หรือการวิพากษ์วิจารณ์รัฐบาลบนโซเชียลมีเดีย
- ความสัมพันธ์ในชุมชน: เช่น การช่วยเหลือสังคม การบริจาค หรือการมีส่วนร่วมในกิจกรรมสาธารณะ
2. การวิเคราะห์ข้อมูลด้วยเทคโนโลยี
- ระบบนี้ใช้ Big Data และ ปัญญาประดิษฐ์ (AI) ในการประมวลผลข้อมูลจำนวนมหาศาลเพื่อประเมินพฤติกรรมของแต่ละบุคคลหรือองค์กร
- การใช้ กล้องวงจรปิดพร้อมเทคโนโลยีจดจำใบหน้า (Facial Recognition) เพื่อติดตามพฤติกรรมในที่สาธารณะ เช่น การข้ามถนนผิดกฎจราจร หรือพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม
3. การคำนวณคะแนน (Scoring)
- คะแนนจะเพิ่มหรือลดขึ้นอยู่กับพฤติกรรมในชีวิตประจำวัน เช่น:
- คะแนนเพิ่ม: การชำระหนี้ตรงเวลา การช่วยเหลือสังคม การทำตามกฎระเบียบ
- คะแนนลด: การจ่ายเงินล่าช้า การฝ่าฝืนกฎหมาย หรือการแพร่ข่าวลวง
- คะแนนที่ได้จะถูกจัดเป็นระดับ เช่น AAA (ดีเยี่ยม) ถึง D (ต่ำสุด) ซึ่งอาจแตกต่างกันไปตามพื้นที่หรือระบบที่ใช้
4. การเผยแพร่และผลกระทบของคะแนน
- ผู้ที่มีคะแนนสูง: ได้รับสิทธิพิเศษ เช่น ดอกเบี้ยเงินกู้ต่ำ การสมัครงานง่ายขึ้น หรือสิทธิพิเศษในการเดินทาง
- ผู้ที่มีคะแนนต่ำ: อาจถูกจำกัดสิทธิ เช่น การซื้อบัตรโดยสารเครื่องบิน การสมัครงาน หรือการเข้าถึงบริการทางสังคม
5. การแบ่งประเภทระบบ
- ระบบใน ระดับท้องถิ่น: หลายเมืองในจีน เช่น เซี่ยงไฮ้ หางโจว มีระบบของตัวเองซึ่งเกณฑ์คะแนนและผลกระทบอาจแตกต่างกัน
- ระบบใน ระดับประเทศ: รัฐบาลจีนมีแผนรวมระบบทั้งหมดเข้าด้วยกันเพื่อสร้างมาตรฐานในอนาคต
ข้อดีและข้อเสียของ Social Credit System
ข้อดี
- ส่งเสริมพฤติกรรมที่ดี: ระบบนี้มีเป้าหมายในการสร้างสังคมที่มีความซื่อสัตย์และรับผิดชอบมากขึ้น
- ลดอาชญากรรมและการละเมิดกฎหมาย: การติดตามพฤติกรรมช่วยลดโอกาสในการกระทำผิด
- เพิ่มความโปร่งใสในภาคธุรกิจ: ธุรกิจที่มีคะแนนดีจะได้รับความไว้วางใจจากลูกค้าและคู่ค้า
ข้อเสีย
- การละเมิดสิทธิส่วนบุคคล: การติดตามพฤติกรรมในทุกมิติของชีวิตถือเป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชนและความเป็นส่วนตัว
- ผลกระทบต่อความเท่าเทียมในสังคม: ผู้ที่มีคะแนนต่ำอาจถูกเลือกปฏิบัติและกลายเป็นพลเมืองชั้นสอง
- ความโปร่งใสของระบบ: ประชาชนส่วนใหญ่ไม่เข้าใจวิธีการคำนวณคะแนนและเกณฑ์ที่ใช้
- การควบคุมทางการเมือง: ระบบนี้อาจถูกใช้เพื่อปิดปากผู้วิจารณ์รัฐบาลหรือผู้ที่มีความคิดเห็นแตกต่าง
ระบบ Social Credit System มีอยู่จริงหรือไม่?
แม้ว่าระบบ Social Credit System จะมีการพูดถึงกันอย่างกว้างขวาง แต่ในปัจจุบันระบบยังไม่ได้ถูกใช้อย่างเต็มรูปแบบในระดับประเทศ โดยมีการทดลองใช้ในบางเมืองและบางกลุ่มเป้าหมาย เช่น:
- ในเมืองใหญ่: เช่น เซี่ยงไฮ้ หางโจว ที่ระบบถูกนำมาใช้กับประชาชนในวงกว้าง
- ในภาคธุรกิจ: ระบบ Corporate Social Credit ถูกนำมาใช้เพื่อประเมินบริษัทเอกชนและรัฐวิสาหกิจ
ประชาชนบางส่วนอาจไม่ทราบถึงการมีอยู่ของระบบ เพราะยังไม่มีผลกระทบชัดเจนต่อชีวิตประจำวัน หรือเพราะระบบยังอยู่ในช่วงทดลองในบางพื้นที่
อนาคตของ Social Credit System
รัฐบาลจีนยังคงพัฒนาระบบนี้อย่างต่อเนื่อง โดยมีเป้าหมายที่จะรวมศูนย์ข้อมูลและสร้างมาตรฐานในระดับประเทศ หากระบบสามารถปรับปรุงให้มีความโปร่งใสและยุติธรรมมากขึ้น อาจกลายเป็นเครื่องมือที่มีประโยชน์ในการพัฒนาสังคม แต่ในทางกลับกัน หากไม่มีการตรวจสอบและควบคุม ระบบนี้อาจกลายเป็นเครื่องมือที่รัฐบาลใช้ในการควบคุมประชาชนอย่างเข้มงวด