วันพุธที่ 5 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2568

ผลกระทบจากการขึ้นภาษีของสหรัฐต่อจีน และผลที่ตามมากับไทย

การขึ้นภาษีสินค้าจากจีนโดยสหรัฐเป็นมาตรการที่ส่งผลกระทบเป็นวงกว้าง ไม่ใช่แค่จีนและสหรัฐเท่านั้น แต่ยังรวมถึงประเทศที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับห่วงโซ่อุปทานระหว่างสองประเทศ รวมถึงไทยด้วย

หลายคนอาจสงสัยว่าทำไมไทยต้องได้รับผลกระทบในเมื่อมาตรการภาษีนี้มุ่งเป้าไปที่จีนโดยตรง จริง ๆ แล้ว ผลกระทบไม่ได้เกิดจากตัวภาษีโดยตรง แต่เป็นผลพวงที่เกิดขึ้นจากการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจในระดับมหภาค เช่น ค่าเงิน การโยกย้ายฐานการผลิต การเปลี่ยนแปลงของซัพพลายเชน และการตอบโต้ทางการค้าของประเทศอื่น

บทความนี้จะอธิบายถึงผลกระทบของนโยบายภาษีนี้ ทั้งต่อสหรัฐเอง ต่อไทย และต่อระบบการค้าโลก พร้อมยกตัวอย่างที่ทำให้เห็นภาพชัดขึ้น


1. การขึ้นภาษีมีข้อดีและข้อเสียต่อสหรัฐเอง

เมื่อสหรัฐขึ้นภาษีสินค้านำเข้าจากจีน สหรัฐย่อมได้รับทั้งผลดีและผลเสีย

ข้อดี

  • ปกป้องอุตสาหกรรมในประเทศ → เมื่อสินค้านำเข้าแพงขึ้น สินค้าผลิตในสหรัฐจะสามารถแข่งขันได้ดีขึ้น
  • ลดการขาดดุลการค้า → ลดการนำเข้าสินค้าจีน ทำให้เงินตราไม่ไหลออกจากสหรัฐมากเกินไป
  • ใช้เป็นเครื่องมือต่อรองทางเศรษฐกิจ → สหรัฐสามารถกดดันจีนให้เปิดตลาด หรือเจรจาข้อตกลงที่เป็นประโยชน์ต่อสหรัฐ

ข้อเสีย

  • สินค้าภายในประเทศแพงขึ้น → บริษัทที่ต้องใช้วัตถุดิบนำเข้าจะมีต้นทุนสูงขึ้น ทำให้ราคาสินค้าสำหรับผู้บริโภคเพิ่มขึ้น
  • ธุรกิจที่พึ่งพาห่วงโซ่อุปทานจากจีนได้รับผลกระทบ → เช่น อุตสาหกรรมเทคโนโลยีและยานยนต์ที่ใช้ชิ้นส่วนจากจีน
  • ประเทศคู่ค้าอาจตอบโต้ → จีนอาจขึ้นภาษีสินค้าสหรัฐ หรือหันไปทำการค้ากับประเทศอื่นแทน

2. ไทยต้องซื้อของจีนแพงขึ้นหรือไม่

ไทยไม่ได้ถูกขึ้นภาษีโดยตรงจากสหรัฐ แต่ก็อาจต้องซื้อของจีนแพงขึ้นจากผลกระทบทางอ้อม

🔹 ทำไมสินค้าจีนที่ไทยนำเข้าอาจแพงขึ้น

  • ค่าเงินบาทอ่อนกว่าหยวน → หากค่าเงินหยวนอ่อนลง สินค้าจีนอาจถูกลง แต่หากเงินบาทอ่อนกว่าหยวน ไทยอาจต้องจ่ายแพงขึ้น
  • จีนอาจขึ้นราคาสินค้า → บางสินค้าที่เป็นที่ต้องการสูง เช่น เครื่องจักร อิเล็กทรอนิกส์ และวัตถุดิบอุตสาหกรรม อาจถูกขึ้นราคาเพื่อชดเชยตลาดสหรัฐที่เสียไป
  • ซัพพลายเชนเปลี่ยนแปลง → หากจีนย้ายฐานผลิตไปประเทศอื่น ไทยอาจต้องซื้อต่อจากประเทศนั้น ๆ ซึ่งอาจมีต้นทุนเพิ่มขึ้น

🔹 ทำไมสินค้าจีนอาจถูกลง

  • ค่าเงินหยวนอ่อนค่า → หากหยวนอ่อนมากกว่าบาท สินค้าจีนอาจถูกลง
  • จีนลดราคาสินค้าบางประเภท → เพื่อดึงดูดลูกค้าในตลาดอื่นและทดแทนตลาดสหรัฐ

3. ไทยได้ดุลการค้ากับสหรัฐเพราะอะไร

ไทยเกินดุลการค้ากับสหรัฐมาโดยตลอด เพราะไทยเป็นทั้งผู้ผลิตสินค้าเองและเป็นฐานการผลิตของบริษัทต่างชาติ

🟢 สินค้าไทยที่ส่งออกเอง

  • อาหารแปรรูป ผลิตภัณฑ์เกษตร เช่น ข้าว อาหารทะเล
  • ชิ้นส่วนยานยนต์ อิเล็กทรอนิกส์ เครื่องใช้ไฟฟ้า
  • ผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม เช่น เคมีภัณฑ์ และยางรถยนต์

🔵 สินค้าแบรนด์ต่างชาติที่ใช้ไทยเป็นฐานผลิต

  • ชิ้นส่วนคอมพิวเตอร์และโทรศัพท์
  • เครื่องใช้ไฟฟ้า เช่น ตู้เย็น เครื่องซักผ้า
  • ยานยนต์ และอะไหล่รถยนต์

4. ไทยอาจถูกใช้เป็นทางผ่านเพื่อเลี่ยงภาษี

บริษัทจีนบางแห่งอาจใช้ไทยเป็นฐานส่งออกโดยไม่ใช่ฐานการผลิตจริง ๆ

📌 แนวทางที่บริษัทจีนใช้

  • นำเข้าสินค้าชิ้นส่วนมาประกอบใหม่ในไทย แล้วส่งออกไปสหรัฐโดยใช้ฉลาก "Made in Thailand"
  • ในอดีตมีกรณี แผงโซลาร์เซลล์และเหล็กจากจีน ถูกส่งผ่านไทยเพื่อเลี่ยงภาษี

ความเสี่ยงต่อไทย

  • ถ้าสหรัฐตรวจพบ อาจมีมาตรการกีดกันไทย เช่น ขึ้นภาษีสินค้าจากไทย หรือเพิ่มมาตรการตรวจสอบ

5. ไทยควรรับมืออย่างไร

กระจายแหล่งนำเข้าและส่งออก

  • ลดการพึ่งพาจีนและสหรัฐมากเกินไป
  • หาตลาดใหม่ เช่น อินเดีย ตะวันออกกลาง และยุโรป

ดึงดูดการลงทุนจากบริษัทข้ามชาติ

  • ให้ไทยเป็นศูนย์กลางการผลิตของเอเชีย

ติดตามนโยบายของสหรัฐและจีน

  • ปรับตัวให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจ

ข้อสรุป

  • ไทยไม่ได้รับผลกระทบโดยตรงจากการขึ้นภาษีของสหรัฐต่อจีน แต่มีผลกระทบทางอ้อมที่สำคัญ
  • ไทยได้โอกาสจากการย้ายฐานการผลิตของบริษัทข้ามชาติ แต่ก็ต้องระวังการเป็นทางผ่านของสินค้าจีน
  • ไทยต้องเตรียมรับมือกับความผันผวนของซัพพลายเชน และเลือกจุดยืนทางเศรษฐกิจให้รอบคอบ
  • แนวทางที่ดีที่สุดคือกระจายตลาด กระจายแหล่งนำเข้า และเสริมสร้างศักยภาพการผลิตภายในประเทศเพื่อความมั่นคงทางเศรษฐกิจในระยะยาว

ในอนาคต ไทยควรติดตามสถานการณ์นโยบายการค้าของสหรัฐและจีนอย่างใกล้ชิด พร้อมปรับกลยุทธ์ให้เหมาะสมกับสถานการณ์ เพื่อรักษาเสถียรภาพทางเศรษฐกิจ และสร้างโอกาสใหม่ ๆ ให้กับธุรกิจไทย

Ars longa, Vita brevis: จากศาสตร์การแพทย์สู่ปรัชญาแห่งศิลปะ

หากเอ่ยถึงวลี "Ars longa, Vita brevis" หลายคนคงนึกถึงแนวคิดที่ว่า "ศิลปะยืนยาว แต่ชีวิตมนุษย์นั้นสั้น" เป็นการสื่อถึงคว...