คำว่า "เป็ด" ถูกใช้ในโลกการทำงานยุคใหม่เพื่ออธิบายคนที่ "ทำได้หลายอย่าง แต่ไม่เก่งสักทาง" โดยมักเป็นคำกลาง ๆ หรือแฝงการปลอบใจตัวเองว่า "เราก็พอได้หลายด้านนะ" แต่ถ้าพินิจให้ลึก คำว่าเป็ดกำลังถูกใช้อย่างเลอะเลือน จนกลายเป็นข้ออ้างให้กับความไร้ทิศทางของคนบางกลุ่มไปอย่างน่าเศร้า
เป็ด = คนห่วย? หรือเปล่า?
คำตอบคือ ไม่ใช่โดยตรง — แต่ก็ อาจจะใช่โดยพฤตินัย ถ้าเป็ดตัวนั้น…
-
รู้แค่ผิวเผินไปหมดทุกเรื่อง
-
ไม่มีจุดยืน ไม่มีสิ่งที่คนอื่นนึกถึงเขาเมื่อพูดถึงสักเรื่องเดียว
-
พึ่งพา AI หรือคนอื่นในการทำงานเกือบทั้งหมด
-
และยังกล้าบอกตัวเองว่า “ฉันเป็นเป็ดไง” ด้วยน้ำเสียงภูมิใจ
ถ้าคุณเข้าข่ายนี้ ต้องยอมรับว่า คุณไม่ได้เป็นเป็ดหรอก คุณเป็นคนที่ยังไม่เอาไหน แล้วใช้คำว่าเป็ดเป็นโล่กำบัง
แล้วเป็ดที่ดีหน้าตาเป็นยังไง?
"เป็ดที่มีคุณภาพ" คือคนที่มีคุณสมบัติเหล่านี้:
-
ทำหลายอย่างได้ในระดับที่เรียกว่า "ใช้ได้" ไม่ใช่แค่ "รู้ว่าเขาทำยังไง"
-
มีสักด้านที่ทำได้ลึกหรือวิเคราะห์เชิงลึกได้ — แม้ไม่ใช่ระดับอาจารย์ แต่ก็ลึกพอจะประเมินงานคนอื่นหรือร่วมมือกับผู้เชี่ยวชาญได้
-
เชื่อมโยงศาสตร์และทักษะต่าง ๆ ได้จริง ไม่ใช่แค่รู้หลายชื่อโปรแกรม
-
มีวิจารณญาณ และสามารถวางกลยุทธ์โดยใช้มุมมองกว้างของตัวเองได้
เป็ดแบบนี้... AI ก็ยังแทนได้ยาก เพราะคุณค่ามาจาก การกลั่น การเชื่อม การคิดเชิงบริบท ไม่ใช่แค่การตอบคำถาม
ฟันธง: ไม่มีใครไม่ใช่เป็ด
ประเด็นที่ลึกที่สุดก็คือ — สุดท้ายมนุษย์ทุกคนก็เป็นเป็ดทั้งนั้น
เพราะเราไม่มีใครรู้ทุกอย่างลึกหมด หรือรู้ทุกเรื่องอย่างเฉียบขาด
-
หมอก็อาจไม่รู้เรื่องภาษี
-
นักกฎหมายก็อาจเขียนโค้ดไม่ได้
-
วิศวกร AI ก็อาจจัดอีเวนต์ไม่เก่ง
ทุกคนจึงล้วนเป็นเป็ดในสนามที่ตนเองไม่ได้ถนัด เพียงแค่เป็ดบางตัว "เลือกพัฒนา" และ "มีความลึกบางด้าน" จนกลายเป็น T-shaped Duck หรือ เป็ดสายพันธุ์เฉพาะทาง
อย่าหลอกตัวเองว่าเป็นเป็ด ถ้าคุณแค่ยังไม่เอาไหน
เป็ดไม่ใช่ข้ออ้างที่จะไม่พัฒนา ไม่ใช่คำปลอบใจ ไม่ใช่คำเก๋ ๆ ที่เอามาใส่โปรไฟล์ LinkedIn ให้ดูเท่
เป็ดที่ดีคือเป็ดที่ "รอดได้ในโลกจริง ไม่ใช่แค่มีชีวิตอยู่ในทฤษฎี"
และเป็ดที่แย่... ก็แค่คนที่ยังไม่รู้ว่าควรเก่งอะไร แล้วเอาคำนี้มาบังหน้าความจริงเท่านั้นเอง