พักหลัง ผมมักจะทำกาแฟแบบกรองบ่อยที่สุดครับ
ซึ่งเหตุผลสำคัญเลยก็คือมันสะดวกรวดเร็วกว่าแบบอื่นๆ พอสมควร
คือ 1.ไม่ต้องเตรียมอุปกรณ์มากนัก 2.ไม่ต้องรอนาน 3.เก็บล้างน้อยสุด
กระดาษกรอง กับถ้วยรอง ก็แบบที่เห็นในภาพครับ
ซื้อจาก Daiso ทั้งนั้น กระดาษกรอง 80 แผ่น 60 บาท ถ้วยรองก็ 60 บาท
...
หลังจากที่ผมไปเจอหนังสือเทคนิคการชงกาแฟที่ร้าน B2S
ตอนแรกก็หนีบใส่รักแร้ จะซื้ออยู่แล้ว
แต่เอะใจเลยเปิดๆดู พบว่า แพงเพราะรูปสี แต่เนื้อหาจริงๆ นิดเดียว
เลยแอบอ่านเอา แค่ 10 นาที ผมก็ได้เนื้อหาของมันมาครบหมดแล้ว
ต้องขออภัยคนพิมพ์ขายด้วยนะครับที่ไม่ได้ซื้อมา
แต่ไหนๆ ก็อ่านมาแล้ว ขอสรุปเทคนิคการชงกาแฟแบบกระดาษกรอง
ซึ่งเป็นเทคนิคที่ร้านในญี่ปุ่นใช้กันมาฝากก็แล้วกันครับ
เรียงเป็นข้อๆคือ
- กาแฟบางชนิด ใช้น้ำร้อน 90 กว่าองศา แต่บางชนิดก็ใช้แค่ 80 กว่าองศาก็พอ อันนี้ต้องดูจากประสบการณ์ครับ
- การตักกาแฟต่อถ้วย ถ้าอ่านไม่ผิดเขาเขียนว่า 17 กรัม แต่ผมกะเอา 3-4 ช้อนชา
- ใส่ผงกาแฟแล้ว ให้เคาะให้ลงมารวมตรงกลางให้ดี บางสูตรให้ใช้นิ้วกดตรงกลางด้วยซ้ำ ให้เป็นหลุมเทน้ำ
- เริ่มเทน้ำร้อน ให้เทน้อยๆ ลงตรงกลางก่อน ให้พอผงกาแฟเปียก แล้วทิ้งไว้ 30 วินาที เพื่อกระตุ้นผงกาแฟให้พอง
- หลังจากนั้นให้เทน้ำทีละน้อยลงตรงกลางเป็นวงกลม พอแค่ท่วมแล้วหยุด
- จุดสำคัญที่สุดคือ อย่าเทจนน้ำโดนกระดาษกรองส่วนที่ไม่มีผงกาแฟ จะเสียรส
- พยายามเลี้ยงระดับน้ำร้อนให้คงที่ ไม่สูงจนเกินไป ต่ำๆไว้จะดี
- อย่าเทน้ำไล่ผงกาแฟที่สูงเกาะขอบกระดาษลง ให้เทเฉพาะตรงกลางไปเรื่อยๆ
- เมื่อใกล้จบ อย่าปล่อยให้น้ำร้อนซึมลงหมด ให้รีบยกออก เพื่อป้องกันรสไม่ดีในตอนท้าย
- เสร็จแล้ว ให้คนกาแฟที่ได้เพื่อให้เนื้อทั้งหมดเข้ากัน
และจากประสบการณ์ส่วนตัวของผม ขอเพิ่มนิดหน่อย
- ให้อุ่นแก้วรองรับด้านล่างด้วยน้ำร้อนก่อน จะทำให้กาแฟไม่เย็นเกินไปตอนดื่ม
- การดูว่าผงกาแฟสกัดออกหมดหรือยังให้ดูตอนเทน้ำร้อน ถ้าผงกาแฟไม่ลอยขึ้น แสดงว่าหมดแล้ว
...
สองวันมานี่ ผมลองเปลี่ยนมาใช้เทคนิคที่ว่านี้ทำกาแฟ
พบว่ารสชาติกาแฟของผมเปลี่ยนดีขึ้นอย่างสังเกตได้เลยครับ
คือไม่ติดรสฝาดเปรี้ยวเหมือนก่อน จนผมเคยโทษว่ากาแฟไม่ค่อยดีไปบ้าง
และได้กาแฟเข้มขึ้นโดยใช้ผงกาแฟเท่าเดิม
ท่านใดที่ชงกาแฟสดทานเองที่บ้านแล้วได้รสชาติที่ยังไม่พอใจ
ลองเอาเทคนิคที่ผมว่าไป ไปลองปรับใช้ดูครับ
แล้วคุณจะพบว่า กาแฟของคุณ ดีขึ้นได้อีกจริงๆ...
