วันอาทิตย์ที่ 27 กรกฎาคม พ.ศ. 2568

บทวิเคราะห์: เมื่อเพื่อนบ้านปะทะ มหาอำนาจขยับ ใครทำตัวแบบไหนกับไทยในศึกเขมร 2025?

สถานการณ์ชายแดนไทย–กัมพูชาที่กำลังปะทุขึ้นไม่ได้เกิดขึ้นในสุญญากาศ หากแต่เกิดท่ามกลางสายตาของ “เพื่อนบ้าน” และ “มหาอำนาจโลก” ที่ต่างจับจ้อง ตีความ และขยับหมากอย่างระวัง เพราะไทยไม่ใช่เพียงผู้ถูกรุกราน แต่เป็น “หมากสำคัญ” บนกระดานภูมิรัฐศาสตร์ของทั้งภูมิภาค

ในบทความนี้ เราชวนมองแบบเข้าใจง่าย ๆ ว่า… ใครกำลังทำตัวแบบไหนกับไทย? ใครจริงใจ ใครเสี้ยม ใครนิ่งดูเชิง — และทั้งหมดนี้เป็นการวิเคราะห์แนวโน้ม ไม่ใช่ข้อสรุปตายตัว

🎯 วิเคราะห์เชิงกลยุทธ์: ใคร “ทำตัวแบบไหน” กับไทย

🌐 มหาอำนาจโลก

🇨🇳 จีน – “เทกแคร์เขมร แต่ไม่อยากให้เสียไทย”

  • จีนเป็นพันธมิตรทางยุทธศาสตร์กับกัมพูชา แต่ก็ไม่อยากให้ไทยเอียงเข้าหาสหรัฐฯ

  • จึงแถลงแบบกลาง ๆ ว่าอยากให้เจรจา แต่ไม่เคยตำหนิกัมพูชาเลยแม้แต่นิด

  • เหตุผลสำคัญ: หากเกิดสงคราม จะกระทบความน่าเชื่อถือของโครงการ Belt and Road (BRI) ที่ลงทุนไว้ทั่วภูมิภาค รวมถึงไทย

🇺🇸 สหรัฐ – “ดึงเกมให้นาน กดดันให้ไทยต้องเลือกข้าง”

  • ไม่ปกป้องไทยตรง ๆ แต่เสนอให้ “หยุดยิงและเจรจา” เพื่อควบคุมทิศทางการสื่อสาร (narrative)

  • เป้าหมายระยะยาวคือกดดันให้ไทยออกจากจุดกึ่งกลาง และเลือกเข้าข้างตะวันตก

  • หากไทยถูกกัมพูชากระทำซ้ำ ๆ ก็จะมีแนวโน้มเอียงฝั่งอเมริกามากขึ้น

  • ใช้นโยบาย soft pressure มากกว่าความช่วยเหลือทางทหารตรง ๆ เพราะไม่ต้องการให้เกิดความแตกแยกในอาเซียนมากเกินไป

🌐 EU / 🇫🇷 ฝรั่งเศส – “เฝ้าดูแล้วจะพูดเมื่อจำเป็น”

  • ตอนนี้ยังเงียบ แต่ถ้ามีการละเมิดสิทธิมนุษยชนชัดเจนในฝั่งใด ฝรั่งเศสหรือ EU จะพูดเสียงดังขึ้น

  • ฝรั่งเศสมีประวัติสัมพันธ์ลึกซึ้งกับกัมพูชา ทั้งในด้านวัฒนธรรมและมรดกโลก เช่น ปราสาทพระวิหาร

  • จึงยังไม่อยากออกหน้าแรงในตอนนี้ รอดูสถานการณ์ก่อน


🌏 ประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

🇻🇳 เวียดนาม – “กลัวเขมรโต เลยเงียบแบบระแวดระวัง”

  • เวียดนามมีอดีตรบกับกัมพูชาในสงครามสมัยเขมรแดง และยังไม่ไว้ใจรัฐบาลกัมพูชาเต็มที่

  • จึงวางตัวระมัดระวัง พูดแค่ “กังวล” โดยไม่เอ่ยถึงฝ่ายใดเป็นพิเศษ

  • หากเห็นว่ากัมพูชาเริ่มแข็งแรงเกินไป อาจเปลี่ยนท่าทีทันที

🇸🇬 สิงคโปร์ – “ขออยู่กลางแบบฉลาด”

  • เน้นให้ใช้กลไกเจรจาผ่านอาเซียน ไม่สนับสนุนการใช้กำลัง

  • วางตัวเป็นกลาง เพื่อรักษาความมั่นคงทางเศรษฐกิจที่สิงคโปร์พึ่งพาอย่างสูง

  • มีบทบาท soft power เบื้องหลัง ทั้งด้านการเงิน การลงทุน และการทูต

🇲🇾 มาเลเซีย – “อย่าให้ไฟลามทุ่งมาถึงบ้านเรา”

  • พยายามไม่เลือกข้าง แถลงเพียงความห่วงใยและเรียกร้องให้เจรจา

  • กลัวว่าความขัดแย้งจะกระทบเสถียรภาพภูมิภาค และทำให้เกิดการแบ่งขั้วในอาเซียน

🇮🇩 อินโดนีเซีย – “อย่าแตกแยกในอาเซียนเลย ขอร้อง”

  • เรียกร้องให้อาเซียนสามัคคีกันและหาทางออกผ่านเวทีภูมิภาค

  • ไม่สนับสนุนการใช้กำลัง และกลัวว่าความแตกแยกจะลดบทบาทของอาเซียนในเวทีโลก

🇵🇭 ฟิลิปปินส์ – “มองจีนเป็นภัย ไม่ชอบเขมรเท่าไหร่”

  • มีท่าทีคล้ายสหรัฐฯ สนับสนุนให้ใช้สันติวิธี แต่ใจเอนเอียงมาทางไทย

  • เพราะไม่อยากเห็นจีนขยายอิทธิพลผ่านกัมพูชา ซึ่งอาจทำให้จีนแข็งแกร่งในภูมิภาคเพิ่มขึ้น

🇱🇦 ลาว – “เกรงใจจีน เก็บตัวเงียบ”

  • ไม่แสดงจุดยืนใด ๆ เพราะอยู่ภายใต้อิทธิพลของจีนสูงมาก

  • ไม่มีแรงจูงใจจะเข้าข้างไทย และกลัวจะเป็นชนวนความขัดแย้งเพิ่มหากพูดผิดฝั่ง

🇲🇲 เมียนมา – “ติดสงครามในบ้านตัวเอง”

  • รัฐบาลทหารกำลังต่อสู้กับกองกำลังชนกลุ่มน้อยในประเทศ จึงไม่มีเวลาหรือศักยภาพจะเข้าแทรกแซงหรือออกความเห็น

  • หากพูดอะไร ก็อาจพูดเข้าข้างไทยเพื่อหวังการสนับสนุนจากรัฐบาลไทยในเวทีนานาชาติ

🇯🇵 ญี่ปุ่น – “ขออยู่แบบเพื่อนดีทุกฝ่าย”

  • สนับสนุนการเจรจา หลีกเลี่ยงความรุนแรง เพราะไม่อยากให้ห่วงโซ่อุปทาน (supply chain) ในอาเซียนปั่นป่วน

  • ลงทุนในไทยและอาเซียนสูงมาก จึงต้องการเสถียรภาพเป็นหลัก


🧠 บทสรุป : ไทยกลายเป็นเป้า ทั้งจากเพื่อน และจากหมากของคนอื่น

  • 🇨🇳 จีนกลัวเสียหมากให้ตะวันตก → เลยพูดกลาง ๆ

  • 🇺🇸 อเมริกาอยากให้เกมยืด → เพื่อดันไทยเข้าฝั่งตะวันตก

  • 🇻🇳 เวียดนามจับตาเขมร → ไม่ไว้ใจใคร แต่ยังไม่แสดงไพ่

  • 🇯🇵 ญี่ปุ่นอยากให้ทุกอย่างจบไว → ไม่อยากเสียซัพพลายเชน

  • 🇪🇺 ฝรั่งเศส/EU เฝ้าดูเงียบ ๆ → รอดูว่าเรื่องสิทธิมนุษยชนจะเด่นชัดแค่ไหน

  • 🇸🇬🇲🇾🇮🇩 สิงคโปร์-มาเลเซีย-อินโดนีเซีย → ขอเพียงอาเซียนไม่แตกแยก

  • 🇵🇭 ฟิลิปปินส์ พร้อมหนุนไทยเงียบ ๆ หากเกมยืดยาว

ในเกมที่หมากถูกวาง ไทยไม่ควรยอมเป็นหมากใคร — แต่ต้องวางตัวเองเป็นคนเล่นกระดานแทน

ASEAN = Club คนปอดแหก

เมื่อไฟลุกชายแดนไทย–กัมพูชา อาเซียนกลับยืนเงียบอยู่ในมุม เหมือนเด็กปอดแหกที่ไม่กล้าแม้แต่จะบอกว่า “เพื่อนกูโดนรังแก” นี่ไม่ใช่ครั้งแรก และคง...