ในโลกที่เราคิดว่าเจริญแล้ว มี UN มีสิทธิมนุษยชน มีศาลโลก มีรัฐธรรมนูญ… แต่กลับมีบาดแผลเลือดสาดเป็นร่องลึกในหน้าประวัติศาสตร์มนุษย์ ที่แม่งยังไม่ได้รับการเยียวยาเลย เพราะคนที่ทำมัน “ใหญ่เกินจะโดน” …นี่คือรายชื่อประเทศ “เหี้-มีบารมี” ที่ยึดชาติอื่นเป็นอาณานิคม แล้วฝากขี้เอาไว้ให้ชาติเขาแตกแยก พังพินาศ ฆ่ากันเองจนทุกวันนี้ แต่ตัวเองลอยตัวเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
🇧🇪 เบลเยียม – เล็กพริกขี้หนู พลังฆ่าคนเป็นล้าน
❖ ยึด: คองโก, รวันดา, บุรุนดี (แอฟริกากลาง)
❖ ผู้นำตัวเหี้-:
King Leopold II (ครองราชย์ 1865–1909): กษัตริย์เบลเยียมผู้ยึด "Congo Free State" เป็นทรัพย์สินส่วนตัว ฆ่าคนไปกว่า 10 ล้าน สร้างระบบกดขี่แรงงานด้วยการตัดแขนเด็ก-ผู้ใหญ่ที่เก็บยางไม่ครบ ติดสินบนหมู่บ้านผ่านการจับตัวผู้หญิงเป็นตัวประกัน ข่มขืนเด็ก ใช้กองกำลัง Force Publique รีดแรงงานท้องถิ่นแบบไร้มนุษยธรรม
หลัง Leopold ตาย รัฐเบลเยียมรับเอาคองโกมาเป็นอาณานิคม แต่ยังคงโครงสร้างกดขี่แบบเดิมไว้จนถึงการปลดปล่อยในปี 1960
ในรวันดาและบุรุนดี ช่วงตกเป็นอาณานิคมเบลเยียม (1919–1962): ใช้ระบบวัดกระดูกหน้าผาก จมูก ความสูง เพื่อแบ่งว่าใครเป็นทุตซี ใครเป็นฮูตู สร้างบัตรประชาชนที่ฝังเชื้อชาติลงไปอย่างเป็นระบบในปี 1933 เพื่อวางกลไกให้เกิดชนชั้นแบบฝังลึก
❖ ของฝาก:
ระบบบัตรประจำตัวประชาชนที่ระบุเผ่าแบบไม่อาจเปลี่ยนแปลงได้
ทุตซีถูกยกให้เป็นชนชั้นนำ ฮูตูถูกกดไว้ข้างล่าง → สะสมความแค้น
พอรวันดาได้เอกราช → ฮูตูล้างแค้น → ระเบิดเป็น การฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ปี 1994 ตายกว่า 800,000 คนใน 100 วัน
❖ ลอยนวลยังไง:
ไม่มีการไต่สวน King Leopold II ทั้งที่หลักฐานโหดเหี้-ชัดเจน
ปี 2020 กษัตริย์ Philippe แค่เขียนจดหมาย "เสียใจ" ส่งให้ผู้นำคองโก ไม่ได้กล่าวคำขอโทษ ไม่ได้เสนอชดเชย ไม่ได้รับโทษแม้แต่นิดเดียว
รัฐบาลเบลเยียมยังไม่ยอมรับเต็มที่ว่าการกระทำในคองโกเป็น “การฆ่าล้างเผ่าพันธุ์” หรือ “อาชญากรรมต่อมนุษยชาติ”
🇬🇧 อังกฤษ – ผู้ดีหัวทอง…แต่เหี้-ทั่วโลก
❖ ยึด: อินเดีย, ปากีสถาน, บังคลาเทศ, พม่า, มาเลเซีย, ไนจีเรีย, เคนยา, อียิปต์, ฮ่องกง, ซูดาน, ออสเตรเลีย, นิวซีแลนด์, ฯลฯ
❖ ผู้นำ/ผู้รับผิดชอบช่วงเหี้-:
Robert Clive: ผู้บุกเบิกการยึดอินเดียให้ British East India Company ตั้งแต่ปี 1757 (Battle of Plassey) → วางระบบรีดภาษี-ปล้นทรัพยากร → ทำให้อินเดียกลายเป็นแหล่งดูดทอง-ฝ้าย-ข้าวที่อังกฤษใช้สะสมทุนปฏิวัติอุตสาหกรรม
Winston Churchill (นายกฯ อังกฤษช่วง WWII): ปล่อยให้เกิด Great Bengal Famine ปี 1943 โดยปฏิเสธการส่งข้าวช่วยคนอินเดีย → มีการสั่งเบนเสบียงไปให้กองทัพอังกฤษแทน → ชาวบ้านตายกว่า 3 ล้านคน → Churchill ตอบว่า "มันก็เป็นความผิดของพวกมันเองที่ขยายพันธุ์มากเกินไป"
❖ ความเหี้-:
ปล้นทรัพยากรอินเดียจน GDP จากเคยมีสัดส่วน 24% ของโลก เหลือไม่ถึง 4% เมื่ออังกฤษถอนตัว
ยัดระบบเจ้าขุนมูลนายแบบอังกฤษเข้าไปทั่วโลก ทำให้เกิดความเหลื่อมล้ำใหม่แทนระบอบดั้งเดิม
ก่อ สงครามฝิ่น กับจีน (Opium Wars) เพื่อเปิดตลาดบังคับให้จีนรับฝิ่นจากอังกฤษ
ใช้แรงงานทาสอินเดีย/แอฟริกันส่งออกไปยังประเทศอื่น เช่น คาริบเบียน มาเลย์ แอฟริกาใต้
ฆ่าล้างและไล่ล่าเผ่าพื้นเมืองในออสเตรเลีย (Aboriginals) และนิวซีแลนด์ (Maori)
❖ ของฝาก:
ความเกลียดชังทางศาสนาในอินเดีย–ปากีสถานจากการแบ่งแยกแบบไม่มีแผน
ระบอบการปกครองที่ฝังความเหลื่อมล้ำจนกลายเป็นโครงสร้างถาวร
❖ ลอยนวลยังไง:
ราชวงศ์อังกฤษสร้างภาพ soft power ด้วยความหรูหราและพิธีกรรมแบบ "ไม่มีพิษภัย"
ไม่เคยจ่ายค่าชดเชยแก่ชาติอาณานิคมใดๆ
ปั้นภาพประเทศผู้ปกครองด้วยระบอบรัฐธรรมนูญเสรี จนกลบประวัติเหี้-พังพินาศไว้ได้หมด
🇫🇷 ฝรั่งเศส – เสรีภาพภราดรภาพ…แต่กับพวกกูเท่านั้น
❖ ยึด: เวียดนาม, ลาว, กัมพูชา (อินโดจีน), แอลจีเรีย, ตูนิเซีย, โมร็อกโก, มาลี, เซเนกัล, กินี, ฯลฯ
❖ ผู้นำเหี้-:
Napoleon III: เริ่มล่าอินโดจีน
Paul Doumer: ข้าหลวงใหญ่ในอินโดจีน วางโครงสร้างรีดภาษี-แรงงานจากเวียดนาม
Charles de Gaulle: ผู้นำฝรั่งเศสที่ปฏิเสธการปล่อยแอลจีเรีย → ส่งทหารเข้าปราบปรามด้วยความโหดเหี้-
❖ ความเหี้-:
ใช้ระบบการศึกษาแบบฝรั่งเศสบังคับให้ชาวพื้นเมือง "ทิ้งวัฒนธรรมตัวเอง"
ฝังแนวคิดว่าฝรั่งเศสคือ "ความศิวิไลซ์" ส่วนพวกอาณานิคมคือ "คนป่า"
ปราบปรามการลุกฮือในแอลจีเรียอย่างโหดเหี้- ปี 1954–1962 ตายกว่าครึ่งล้าน
ทดสอบนิวเคลียร์ในหมู่เกาะ French Polynesia โดยไม่บอกชาวบ้าน → คนป่วย-ลูกพิการ
❖ ของฝาก:
เขมรถูกปกครองแบบไร้การเตรียมพร้อม → พอฝรั่งเศสถอนตัว เกิดสุญญากาศ จน Pol Pot ก้าวขึ้นมาฆ่าล้างชาติเอง
ความตึงเครียดด้านเชื้อชาติในฝรั่งเศสปัจจุบัน เช่น ปัญหาแอลจีเรีย
❖ ลอยนวลยังไง:
ไม่มีศาลโลกหรือการชดใช้
มักใช้วาทกรรม "เสรีภาพ" กลบความโหดที่เคยทำ
ไม่เคยสอนประวัติศาสตร์ฝรั่งเศสในเวอร์ชันที่เป็นเหี้-แก่ประชาชนฝรั่งเศสเอง
🇯🇵 ญี่ปุ่น – นักล่าอาณานิคมสายเอเชีย
❖ ยึด: เกาหลี, ไต้หวัน, จีนตะวันออก, ฟิลิปปินส์, พม่า, อินโดนีเซีย, มาเลย์, ฯลฯ
❖ ตัวละครเหี้-:
Emperor Hirohito: กษัตริย์ญี่ปุ่นช่วง WWII แม้จะไม่สั่งตรง แต่มีอำนาจเหนือรัฐบาล
Hideki Tojo: นายกฯญี่ปุ่นในสงครามโลกที่ 2 สั่งบุกจีน ฟิลิปปินส์ อินโดฯ พม่า
Shiro Ishii: ผอ.หน่วย 731 ผู้ทดลองจับมนุษย์จีน รัสเซีย เกาหลีมาผ่าตัดไม่วางยา ปล่อยให้ติดเชื้อ-แข็งตาย มีบันทึกผลวิจัยอย่างเป็นระบบ
❖ ความเหี้-:
ลักพาตัวผู้หญิงจากเกาหลี–จีนไปเป็น Comfort Women ประจำค่ายทหาร
ฆ่าล้างหมู่ Nanjing ปี 1937 ฆ่าประชาชนจีนกว่า 300,000 คน
หน่วย 731 ทดลองกับมนุษย์แบบซาดิสม์
ฆ่าล้างหมู่ในฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย และประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ระหว่างยึดครอง
❖ ของฝาก:
รอยร้าวทางจิตวิญญาณในเกาหลีและจีน
ญี่ปุ่นยังมีนักการเมืองปฏิเสธความผิดแบบออกสื่ออยู่ทุกปี
❖ ลอยนวลยังไง:
สหรัฐกัน Hirohito ไม่ให้ถูกดำเนินคดี เพื่อให้ญี่ปุ่นไม่ล่มหลังสงคราม
ขอโทษแบบครึ่ง ๆ กลาง ๆ ไม่ชัดเจน ไม่จ่ายชดเชยโดยตรง
ญี่ปุ่นยังไม่ยอมลงนามยอมรับเขตอำนาจ ICC
🇺🇸 สหรัฐอเมริกา – ไม่เรียกตัวเองว่า “อาณานิคม” แต่แม่งเหมือนที่สุด
❖ ยึดอิทธิพล: ลาตินอเมริกา, ฟิลิปปินส์, เกาหลีใต้, อิรัก, อัฟกานิสถาน, เวียดนาม, ไทย (บางช่วง), ฯลฯ
❖ ตัวแสบ:
Theodore Roosevelt: นโยบาย Big Stick → บุกปานามา สร้างคลองเองแม่งเลย
Dwight Eisenhower: อนุมัติ CIA ล้มรัฐบาลอิหร่าน (1953) กับกัวเตมาลา (1954)
Richard Nixon: สนับสนุนเผด็จการ Pinochet หลังโค่นรัฐบาลประชาธิปไตยของชิลี
George W. Bush: บุกอิรักปี 2003 อ้างเรื่องอาวุธชีวภาพ → ไม่มีจริง
❖ ความเหี้-:
สนับสนุนรัฐประหารที่ตรงผลประโยชน์ตะวันตก
ลอบสังหารผู้นำฝ่ายซ้ายทั่วโลก
ปล่อยข่าวปลอม ปั่นความขัดแย้งภายในประเทศเป้าหมาย
ยึดทรัพยากรผ่านการครอบงำเศรษฐกิจ-เทคโนโลยี
❖ ของฝาก:
ประเทศอย่างอิรัก-ลิเบีย-อัฟกานิสถานพังยับหลังสหรัฐบุก “เพื่อประชาธิปไตย”
ผู้นำเผด็จการหลายรายได้ขึ้นสู่อำนาจเพราะอเมริกา เช่น สุฮาร์โต (อินโดนีเซีย)
❖ ลอยนวลยังไง:
เป็นผู้ชนะสงครามโลก → คุมระบบ UN และ Bretton Woods System
คุมค่าเงินโลก (USD), คุมเทคโนโลยี, คุมโซเชียลมีเดีย
ไม่ยอมลงนามรับเขตอำนาจศาลอาญาระหว่างประเทศ (ICC) = ฟ้องไม่ได้
ใครค้าน → โดนคว่ำบาตร / ป้ายสีเป็นศัตรูประชาธิปไตย
🇵🇹 โปรตุเกส – ล่าโลกตั้งแต่ยังไม่มีแผนที่
❖ ยึด: บราซิล, โมซัมบิก, แองโกลา, กัว (อินเดีย), ติมอร์ตะวันออก, มาเก๊า
❖ ความเหี้-:
-
ค้าทาสข้ามมหาสมุทรแอตแลนติกยุคต้น (ศตวรรษที่ 15–16)
-
บังคับขนแรงงานจากแอฟริกาไปบราซิลโดยเรือขนคนแบบทาส
-
ใช้แรงงานทาสในไร่อ้อย กาแฟ เหมือนวัวควาย
-
ล้างเผ่าพื้นเมืองบราซิลเพื่อยึดดินแดน
-
เปลี่ยนศาสนา-วัฒนธรรมท้องถิ่นในอินเดีย (Goa Inquisition)
❖ ของฝาก:
-
บราซิลมีโครงสร้างเชื้อชาติ–ชนชั้นฝังลึกมาจากยุคนี้
-
ติมอร์ตะวันออกกลายเป็นรัฐไร้เสถียรภาพหลังโปรตุเกสถอนตัว
-
แอฟริกาตะวันออกเฉียงใต้ยังมีความปั่นป่วนภายหลังการถอนตัวของโปรตุเกส
🇳🇱 เนเธอร์แลนด์ (ดัตช์) – เล็กแต่ลึก
❖ ยึด: อินโดนีเซีย, ซูรินาเม, แอฟริกาใต้ (ยุคต้น), แคริบเบียน (Aruba, Curaçao, ฯลฯ)
❖ ความเหี้-:
-
บังคับปลูกเครื่องเทศในชวาและหมู่เกาะโมลุกกะ โดยใช้แรงงานบังคับ
-
ฆ่าประชาชนอินโดนีเซียที่ลุกฮือหลายแสน โดยเฉพาะปี 1945–1949
-
สร้างโครงสร้างสังคมแบ่งเชื้อชาติ (ดัตช์–จีน–พื้นเมือง) เพื่อควบคุม
-
ใช้การศึกษา-ศาสนาเปลี่ยนความคิดประชากร
-
ในซูรินาเม ใช้แรงงานผสมหลายชาติพันธุ์แบบไม่ให้สิทธิ์อะไรเลย
❖ ของฝาก:
-
อินโดนีเซียมีชนกลุ่มน้อยหลายเชื้อชาติปะปนและแตกแยกทางอำนาจ
-
ระบบชนชั้นผิว/วรรณะในซูรินาเมและแคริบเบียนยังฝังอยู่จนทุกวันนี้
🇪🇸 สเปน – ฆ่าผืนทวีปทั้งอัน
❖ ยึด: อเมริกาใต้เกือบทั้งหมด, เม็กซิโก, ฟิลิปปินส์, คิวบา, เปอร์โตริโก
❖ ความเหี้-:
-
ส่งกองเรือ Conquistador เช่น Hernán Cortés และ Francisco Pizarro
→ ฆ่า/กวาดล้างอารยธรรม Aztec, Maya, Inca -
ข่มขืน, ทรมาน, กดขี่, เผาเมือง, บังคับเปลี่ยนศาสนา
-
สร้างระบบ Encomienda: ให้คนขาวสิทธิ์ครอบครองแรงงานพื้นเมืองได้เหมือนทรัพย์สิน
-
ส่งบาทหลวงสเปนมา “ล้างบาป” ด้วยดาบ
❖ ของฝาก:
-
ละตินอเมริกาเปลี่ยนเป็นระบบราชวงศ์-ศาสนาแบบสเปน
-
สังคมแบบ “ผิวขาวปกครอง ผิวเข้มทำงาน”
-
ปัญหา land ownership แบบ feudalist ที่ฝังลึกจนถึงศตวรรษ 21
🇮🇹 อิตาลี – สายเถื่อนยุคปลาย
❖ ยึด: ลิเบีย, เอริเทรีย, เอธิโอเปีย, โซมาเลีย
❖ ความเหี้-:
-
Benito Mussolini สั่งบุกเอธิโอเปียปี 1935
→ ใช้อาวุธเคมีใส่ประชาชน (มัสตาร์ดแก๊ส) -
ทำลายชุมชน, พิพิธภัณฑ์, มรดกทางวัฒนธรรม
-
จับคนเอธิโอเปียเข้าค่ายกักกัน
-
ไล่ฆ่าเผ่าพื้นเมืองหลายกลุ่ม เช่น Oromo, Tigray
❖ ของฝาก:
-
เอธิโอเปีย–โซมาเลีย–ลิเบีย ไม่เคยฟื้นจากสงครามเชิงโครงสร้าง
-
รัฐไร้ศูนย์กลางอำนาจจนกลายเป็นประเทศล้มเหลว (failed states)
✴️ อิสราเอล – อาณานิคมยุคใหม่ภายใต้โลโก้ “รัฐ”
❖ ยึด: ปาเลสไตน์ (West Bank, Gaza, East Jerusalem)
❖ ความเหี้-:
-
สถาปนารัฐบนดินแดนของผู้อื่นในปี 1948 (Nakba = วันหายนะของชาวปาเลสไตน์)
-
ขับไล่ประชาชน 700,000+ คนออกจากบ้านเกิด
-
สร้างนิคมชาวยิวกลางดินแดนปาเลสไตน์อย่างผิดกฎหมายสากล
-
สังหาร, คุมขัง, จำกัดเสรีภาพ, ล้อมรอบดินแดนปาเลสไตน์ไว้แบบค่ายกักกัน
-
ทำลายโรงเรียน, โรงพยาบาล, ระบบสาธารณูปโภค
❖ ของฝาก:
-
คนรุ่นใหม่ของทั้งสองฝั่งเติบโตกับความเกลียดและการสังหาร
-
ความชอบธรรมทางกฎหมายสากลพังยับ
-
ความยุติธรรมกลายเป็นของเล่นมหาอำนาจ
✴️ รัสเซีย – จักรวรรดิยุคใหม่แบบปากบอก “ต้านจักรวรรดิ”
❖ ยึด: ไครเมีย, ดอนบาส, เชชเนีย, จอร์เจียบางส่วน, ล้มชาติรอบโซเวียต
❖ ความเหี้-:
-
ยึดไครเมียในปี 2014 โดยไม่ผ่านความเห็นชอบของยูเครน
-
บุกยูเครนเต็มรูปแบบในปี 2022 → ยิงมิสไซล์ใส่เมือง, รร., โรงพยาบาล
-
ใช้ Wagner Group ก่ออาชญากรรมในแอฟริกา, ตะวันออกกลาง
-
กดขี่ชนกลุ่มน้อยในไซบีเรีย, คอเคซัส
-
ใช้สงครามข่าวสาร (propaganda) ครอบงำภายในและภายนอกประเทศ
❖ ของฝาก:
-
ยูเครนพังยับ ชาติอดีตโซเวียตไม่มีเสถียรภาพ
-
สงครามเย็นกลับมาในโลกยุคใหม่
🔚 สรุป: โลกนี้แม่งไม่ยุติธรรมตั้งแต่แม่งตั้งโต๊ะ
มหาอำนาจตั้งกฎเอง แล้วถือสิทธิยกเว้นให้ตัวเอง
คนเล็ก ๆ ชาติเล็ก ๆ ต้องเล่นอยู่ในเกมที่ถูกโกงตั้งแต่ต้น
แต่การ “รู้ทัน” คือด่านแรกของการไม่ตกเป็นเหยื่อซ้ำแล้วซ้ำเล่า
ถ้ามึงยังหลงคิดว่า “ประวัติศาสตร์มันผ่านไปแล้ว อย่ารื้อ” ก็เท่ากับยอมให้ไอ้พวกที่ฝากขี้ไว้ ยังคงเดินสวย ๆ อยู่บนเวทีโลก โดยไม่มีใครถามว่า… "ไอ้เหี้- นี่มันฆ่าคนไว้กี่ล้าน?"
โลกนี้แม่งยังต้องการความจริงอยู่มากกว่าที่คิด และคนที่จะกล้าขุดมันขึ้นมา ก็คือพวกมึงนี่แหละ
✴️ แล้วไทยล่ะ? อยู่ตรงไหนของแผนที่ความเหี้-นี้?
ไทยอาจไม่ได้เคยเป็นประเทศล่าอาณานิคม แต่ใช่ว่าจะไม่เคย “รับใช้” หรือ “ยินยอม” ต่อระบบจักรวรรดิ
ยุคก่อนเปลี่ยนแปลงการปกครอง → ยอมเซ็นสนธิสัญญาไม่เป็นธรรมกับจักรวรรดิตะวันตกเพื่อรักษาอำนาจชนชั้นนำของตัวเอง
ยุคสงครามเย็น → เข้าข้างอเมริกา, เปิดประเทศให้ใช้เป็นฐานทัพ, สนับสนุนการปราบปรามฝ่ายซ้าย → เกิดความแตกแยกในประเทศ, มีการทรมาน-อุ้มหาย-สังหารหมู่
ยุคปัจจุบัน → วาทกรรมความมั่นคง, ความเจริญ, การพัฒนา ถูกใช้กลบความไม่เท่าเทียมและการแทรกแซงจากภายนอก
สุดท้าย...
จะเรียกมันว่า “ประวัติศาสตร์” หรือ “บทเรียน” ก็แล้วแต่ แต่ขอให้พวกมึงจดไว้ในสมองว่า ความเจ็บปวดของคนตัวเล็กที่ถูกย่ำยีแม่งไม่มีวันหมดอายุ และการรู้ว่าใครเป็นคนเริ่มมันไว้ ก็คือขั้นแรกของการไม่ปล่อยให้มันเกิดขึ้นซ้ำอีก