ถ้าพูดถึงตระกูลที่มีบทบาทในการสร้างความสุขให้กับคนไทยผ่านสวนสนุกและความบันเทิง ตระกูล กิติพราภรณ์ ต้องเป็นหนึ่งในรายชื่อที่ต้องพูดถึง! พวกเขาคือกลุ่มนักธุรกิจที่อยู่เบื้องหลังสวนสนุกระดับตำนานอย่าง แดนเนรมิต และ ดรีมเวิลด์ รวมถึงโรงละคร สยามนิรมิต ซึ่งเคยเป็นเวทีโชว์วัฒนธรรมไทยที่ยิ่งใหญ่ที่สุด วันนี้เราจะพาทุกคนย้อนดูเส้นทางธุรกิจของตระกูลนี้ ว่าพวกเขาสร้างอาณาจักรความบันเทิงของไทยได้อย่างไร และตอนนี้ธุรกิจของพวกเขาเป็นอย่างไรกันบ้าง!
จุดเริ่มต้นจากโรงภาพยนตร์สู่สวนสนุก
ตระกูลกิติพราภรณ์ไม่ได้เริ่มต้นจากธุรกิจสวนสนุกโดยตรง แต่พวกเขาเคยเป็นเจ้าของโรงภาพยนตร์ชื่อดังในยุค 70s – 80s เช่น พาราเมาท์, ฮอลลีวู้ด, และ โคลีเซียม โรงหนังเหล่านี้เคยเป็นศูนย์รวมความบันเทิงของคนไทย และช่วยปูทางให้ตระกูลนี้ก้าวเข้าสู่วงการความบันเทิงขนาดใหญ่ขึ้น
แดนเนรมิต : สวนสนุกในฝันของไทยยุค 80s
แรงบันดาลใจสำคัญที่ทำให้ตระกูลกิติพราภรณ์ก้าวเข้าสู่ธุรกิจสวนสนุกเกิดขึ้นเมื่อ ไมตรี กิติพราภรณ์ ได้ไปเยี่ยมชมสวนสนุกที่ญี่ปุ่น แล้วเกิดไอเดียอยากนำความสนุกแบบนั้นมาให้คนไทยได้สัมผัสบ้าง ในปี 2519 แดนเนรมิต จึงถือกำเนิดขึ้นบนที่ดินเช่าขนาด 33 ไร่ ย่านทุ่งบางเขน (ปัจจุบันคือบริเวณตลาดนัดจ๊อดแฟร์ แดนเนรมิต) แดนเนรมิตเป็นสวนสนุกแห่งแรกของไทยที่มี รถไฟเหาะตีลังกา, ล่องแก่ง, บ้านผีสิง, และเครื่องเล่นมากมายที่สร้างความสนุกให้กับคนไทยมานานกว่า 20 ปี
แต่ด้วยปัจจัยหลายอย่าง ทั้งการหมดสัญญาเช่าที่ดิน การแข่งขันจากสวนสนุกใหม่ ๆ อย่าง ดรีมเวิลด์ และ สวนสยาม ทำให้แดนเนรมิตต้องปิดตัวลงในปี 2543 เหลือไว้เพียงความทรงจำและเสียงประกาศที่หลายคนยังคิดถึงจนถึงทุกวันนี้
ดรีมเวิลด์ : ความหวังใหม่ที่ใหญ่กว่าเดิม
แม้แดนเนรมิตจะปิดตัวไป แต่ตระกูลกิติพราภรณ์ไม่ได้ยอมแพ้ พวกเขาทุ่มเงินกว่า 1,000 ล้านบาท ซื้อที่ดินขนาด 160 ไร่ ย่านรังสิต-นครนายก คลอง 3 เพื่อสร้างสวนสนุกใหม่ที่ใหญ่กว่าเดิม และในปี 2536 ดรีมเวิลด์ ก็ได้ถือกำเนิดขึ้น!
ที่นี่มีเครื่องเล่นที่อลังการกว่าแดนเนรมิต เช่น ซูเปอร์สแปลช, เฮอริเคน, เมืองหิมะ, และโซนถ่ายรูปที่ถูกใจสายโซเชียล ดรีมเวิลด์กลายเป็นจุดหมายปลายทางสำคัญของครอบครัวไทย และเป็นคู่แข่งที่แข็งแกร่งของสวนสยามจนถึงปัจจุบัน
สยามนิรมิต : เวทีวัฒนธรรมไทยที่ยิ่งใหญ่ที่สุด
ตระกูลกิติพราภรณ์ไม่ได้หยุดแค่สวนสนุก พวกเขายังต้องการเผยแพร่วัฒนธรรมไทยให้เป็นที่รู้จักไปทั่วโลก จึงเปิดตัว สยามนิรมิต ในปี 2548 โรงละครแห่งนี้มีการแสดงที่บอกเล่าเรื่องราวของไทย ตั้งแต่ยุคสุโขทัยจนถึงปัจจุบัน ด้วยโปรดักชันที่อลังการ นักแสดงกว่าร้อยชีวิต และเทคนิคพิเศษที่ทำให้เวทีแปรเปลี่ยนเป็นป่าหิมพานต์, นรก, หรือท้องฟ้าสวรรค์ได้แบบสุดมหัศจรรย์
หลังจากต้องหยุดให้บริการชั่วคราวจากสถานการณ์โควิด-19 ปัจจุบัน สยามนิรมิต กรุงเทพฯ ได้ปิดถาวร แต่ สยามนิรมิต ภูเก็ต ยังคงเปิดให้บริการและเป็นหนึ่งในแหล่งท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมจากทั้งชาวไทยและนักท่องเที่ยวต่างชาติ
Skippy Land : อาณาจักรสวนสนุกขนาดเล็กในห้าง
นอกจากสวนสนุกขนาดใหญ่ ตระกูลกิติพราภรณ์ยังมีธุรกิจ Skippy Land ซึ่งเป็นสวนสนุกขนาดเล็กภายในห้าง เปิดให้บริการตั้งแต่ปี 2534 ปัจจุบันมีสาขากว่า 140 แห่งทั่วประเทศ โดยเน้นให้เด็ก ๆ และครอบครัวได้สนุกสนานในพื้นที่จำกัด
ปัจจุบันและอนาคตของธุรกิจตระกูลกิติพราภรณ์
แม้แดนเนรมิตจะปิดตัวไปแล้ว แต่ ดรีมเวิลด์, สยามนิรมิต ภูเก็ต, และ Skippy Land ยังคงเป็นธุรกิจที่แข็งแกร่งและดำเนินต่อไป
- ดรีมเวิลด์ ยังคงได้รับความนิยม โดยมีการเพิ่มเครื่องเล่นใหม่ ๆ และจัดอีเวนต์พิเศษเพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยว
- สยามนิรมิต กรุงเทพฯ ปิดถาวร แต่สยามนิรมิต ภูเก็ตยังคงเปิดให้บริการ
- Skippy Land ยังคงเปิดให้บริการในห้างสรรพสินค้าหลายแห่งทั่วประเทศ
บทสรุป : ตระกูลแห่งความบันเทิงของไทย
จากโรงหนังสู่สวนสนุก จากแดนเนรมิตสู่ดรีมเวิลด์ ตระกูลกิติพราภรณ์ถือเป็นหนึ่งในตระกูลที่สร้างอาณาจักรความบันเทิงของไทยมาตลอดหลายสิบปี แม้ว่าบางธุรกิจจะต้องปิดตัวลง แต่พวกเขาก็ยังคงเดินหน้าสร้างความสุขให้คนไทยเสมอ ใครที่เคยไปแดนเนรมิต หรือปัจจุบันยังไปเที่ยวดรีมเวิลด์อยู่ ก็ถือว่าคุณเป็นส่วนหนึ่งของตำนานสวนสนุกไทยแล้วล่ะ!