วันอังคารที่ 25 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2568

วัฏจักรการเมืองไทย: จาก 14 ตุลา สู่ยุคปัจจุบัน

เมื่อเวลาผ่านไป เราเริ่มลืม หรือแค่เลิกสนใจ?

ในช่วงที่กระแสการเมืองแรง ๆ ไม่ว่าจะเป็นเหตุการณ์ 14 ตุลา 2516, 6 ตุลา 2519, พฤษภาทมิฬ 2535, หรือ เมษา-พฤษภา 2553 เราเคยเห็นประชาชนออกมาต่อสู้ ถูกปราบปราม และมีคนล้มตาย แต่เมื่อเวลาผ่านไป หลายคนกลับใช้ชีวิตกันปกติ เหมือนไม่เคยมีอะไรเกิดขึ้น คำถามคือ สิ่งที่เคยสู้กันมา มัน "ไร้ค่า" หรือแค่ "ถูกลืม" ไปเฉย ๆ กันแน่?

🔄 วงจรซ้ำซากของการเมืองไทย

เมื่อมองย้อนกลับไป จะเห็นว่าสังคมไทยมี วัฏจักรของการเมือง ที่วนซ้ำไปซ้ำมา

  1. ประชาชนไม่พอใจอำนาจรัฐ → เมื่อรัฐบาลเริ่มใช้อำนาจเกินขอบเขต หรือมีการโกงกินหนัก ๆ
  2. เริ่มมีการประท้วง → คนออกมาชุมนุม ตั้งแต่กลุ่มเล็ก ๆ จนขยายใหญ่
  3. รัฐใช้ความรุนแรงสลายการชุมนุม → มีการจับกุม ใช้ทหารและตำรวจเข้าสกัด
  4. มีผู้เสียชีวิต/บาดเจ็บ → กลายเป็นโศกนาฏกรรมที่ฝังอยู่ในความทรงจำของคนยุคนั้น
  5. สังคมตื่นตัวชั่วคราว → มีการเรียกร้องความยุติธรรม การพูดถึงปฏิรูป
  6. กระแสเริ่มซา คนเริ่มลืม → เมื่อเวลาผ่านไป เรื่องราวเงียบหาย คนแยกย้ายไปใช้ชีวิตปกติ
  7. ผู้กระทำผิดยังลอยนวล → ไม่มีใครต้องรับผิดชอบต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
  8. หลายปีต่อมา เหตุการณ์คล้ายกันก็เกิดขึ้นอีก → แล้ววัฏจักรนี้ก็วนซ้ำไปใหม่

📌 เหตุการณ์ความรุนแรงอื่น ๆ ที่ควรอ้างอิง

นอกจากเหตุการณ์ที่เป็นที่รู้จักกันดีอย่าง 14 ตุลา 2516, 6 ตุลา 2519, พฤษภาทมิฬ 2535, และ เมษา-พฤษภา 2553 ยังมีเหตุการณ์ทางการเมืองไทยที่เกิดความรุนแรงและมีผลกระทบต่อสังคม เช่น:

  • เหตุการณ์ความไม่สงบในภาคใต้ → ความขัดแย้งระหว่างรัฐกับกลุ่มแบ่งแยกดินแดนที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตนับพัน
  • รัฐประหาร 2549 และ 2557 → ส่งผลให้ประชาธิปไตยไทยชะงัก และเกิดการเคลื่อนไหวของกลุ่มต่าง ๆ อย่างกว้างขวาง
  • เหตุการณ์สลายการชุมนุมปี 2552 และ 2553 → การใช้กำลังเข้าสลายกลุ่มผู้ชุมนุมที่แยกราชประสงค์และอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ทำให้มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บ

📌 สิ่งที่เปลี่ยนไปในยุคปัจจุบัน

ถึงแม้การเมืองไทยจะยังวนลูปเดิม แต่ก็มีบางอย่างที่ไม่เหมือนเดิม

  • โซเชียลมีเดียทำให้การปิดข่าวยากขึ้น → คนมีแหล่งข้อมูลหลากหลาย รัฐควบคุมความจริงไม่ได้เหมือนสมัยก่อน
  • คนรุ่นใหม่ตื่นตัวเร็วกว่าเดิม → แม้บางช่วงจะดูเหมือนเลิกสนใจ แต่เมื่อมีเหตุการณ์อะไรแรง ๆ คนก็พร้อมลุกขึ้นมาอีก
  • คนเริ่มมองการเมืองซับซ้อนขึ้น → ไม่แบ่งแค่ "แดง" กับ "สลิ่ม" แต่เริ่มเห็นปัญหาของโครงสร้างที่ใหญ่กว่า
  • แต่ก็มีคนเหนื่อยและหมดศรัทธาเยอะขึ้น → เพราะรู้สึกว่าต่อให้สู้ไปสุดท้ายก็อาจวนกลับมาที่เดิม

❓ แล้วที่สู้กันมา สุดท้ายมัน "ไร้ค่า" ไหม?

มันไม่ถึงกับไร้ค่าหรอก เพราะทุกเหตุการณ์ทิ้งร่องรอยไว้เสมอ บางอย่างอาจไม่เปลี่ยนแปลงทันที แต่ก็เป็นเมล็ดพันธุ์ที่ปลูกไว้ให้คนรุ่นต่อไป

สิ่งที่เกิดขึ้นใน 14 ตุลา 2516 ทำให้คนตระหนักถึงอำนาจเผด็จการ

เหตุการณ์ 6 ตุลา 2519 แสดงให้เห็นถึงความโหดร้ายของการปราบปรามนักศึกษา

เหตุการณ์ พฤษภาทมิฬ 2535 แสดงให้เห็นว่าประชาชนสามารถโค่นรัฐบาลทหารได้

การปราบปรามปี 2553 ทำให้คนตั้งคำถามกับระบบยุติธรรมไทยมากขึ้น

แม้ตอนนี้หลายคนจะกลับไปใช้ชีวิตปกติ แต่มันไม่ได้หมายความว่าเรื่องราวเหล่านี้ถูกลืม เพียงแต่สังคมไทยยังคงวนเวียนอยู่ในระบบที่ยังไม่ได้เปลี่ยนแปลงจริง ๆ

🔮 สุดท้ายแล้ว อนาคตจะเป็นยังไง?

หากดูจากอดีตที่ผ่าน ๆ มา มีโอกาสสูงที่เราจะได้เห็น "เหตุการณ์ลักษณะเดิม" เกิดขึ้นอีกในอนาคต

  • คนจะเริ่มหมดความอดทนกับปัญหาเดิม ๆ
  • จะมีการประท้วงและเรียกร้องอีกครั้ง
  • แล้วรัฐอาจใช้วิธีเดิมในการจัดการ
  • จากนั้นกระแสจะซา แล้ววนลูปใหม่อีกที

แต่คำถามที่แท้จริงก็คือ เมื่อถึงเวลานั้น เราจะเลือกทำแบบเดิม หรือหาทางออกใหม่ให้ประเทศนี้?


📢 แล้วคุณล่ะ คิดว่าสิ่งที่สู้กันมา "มีค่า" หรือ "ไร้ค่า"? หรือเรากำลังรอให้วัฏจักรนี้วนมาอีกครั้ง? 🤔

ความเฮงซวยของระบบ "อาสา" แบบปลอม ๆ

บทนำ ระบบ "อาสา" ควรจะเป็นพื้นที่ของการเสียสละด้วยใจ เป็นการช่วยเหลือกันด้วยความหวังดี ไม่ใช่เครื่องมือที่ใช้บังคับคนให้ทำสิ่งที่...