ถ้าคนเราออกลูกเป็นไข่ คงยุ่งน่าดู…
ดูจากไก่ ท่าทางคนเราจะออกไข่สักสัปดาห์ละครั้ง
ผู้หญิงก็จะพุงป่องและมีไข่ออกสัปดาห์ละฟอง
สาวๆ ก็ไม่ต้องลำบากอุ้มท้องนาน แค่อุ้มไข่ไม่นาน ก็ออกมาแทน
นั่งๆคุยกับอยู่ สาวๆที่ไม่ยอมไข่ตอนเช้าเป็นเวลา ก็จะขอตัวออกไปออกไข่
ตามสถานที่ต่างๆ ก็จะมีห้องพิเศษในห้องน้ำหญิง เรียกว่าห้องออกไข่
ทีนี้เวลามีไข่ออกมา ก็จะวุ่นว่าจะเอาไปทำอะไร
ไข่ไม่ฟัก จะเอาไปเจียวกินก็ใช่ที่ คงจะกินไม่ลง -_-"
แล้วเวลาเจอไข่ตกอยู่ที่แปลกๆ ก็ต้องมีหน่วยพิสูจน์ว่าไข่ผสมหรือยัง
ถ้ามีแล้วฟักเป็นตัว ก็จะมีปัญหา ไข่กำพร้า
ซึ่งถ้าธรรมชาติควบคุมให้ไข่ที่ไม่ได้รับการผสม ไม่ออกมา
ก็ถือว่าดี เพราะจะแก้ปัญหา "ไข่คน" ไปได้มาก
ทีนี้ ไข่ที่คลอดออกมา ก็ถือว่ามีการผสมน้ำเชื้อแล้วแน่นอน
ละครหลังข่าว ก็ต้องเปลี่ยนบท จากการลักพาทารกลูกนางเอก เป็นรุ่นลักไข่แทน
และบทโหดสุดๆ คือตัวร้าย ตีไข่แตก
ก็จะถือเป็นการฆ่าเด็ก น้ำตาไหลพรากกันเลยทีเดียว...
แล้วถ้าช่วงฟักไข่ ต้องการความอบอุ่น คนก็ต้องไปนอนฟัก
ทีนี้มนุษย์คงไม่ยอมนอนฟักเฉยๆ ก็ต้องมีขายชุดฟักไข่
มีรถเข็นฟักไข่ ตู้ฟักไข่ บริการรับฝากฟักไข่
และกระทรวงสาธารณสุข ก็จะออกมารณรงค์ให้คุณแม่ฟักไข่ด้วยตัวเอง
เพื่อความอบอุ่นแก่ทารกในไข่ และสร้างสายสัมพันธ์อันดีแก่เด็กในไข่
และถ้าใช้การไข่ ก็หมายความว่าอาจจะออกไข่ได้คร้งละหลายฟอง
คลอดไข่คร้งนึง อาจจะมากถึง 8 ฟอง ออกเด็ก 8 คน
ทีนี้ประชากรก็จะล้นโลกเร็วขึ้น เอิ่ม...
ถึงตอนนี้ เปลี่ยนเป็นว่าให้ออกไข่ได้ทีละฟองดีกว่า
ต่อให้ออกทีละฟอง มนุษย์ผู้มักมาก ก็จะยิ่งมีลูกบ่อย
เพราะไข่ใช้เวลารอในท้องเร็วกว่าการอุ้มท้องมาก
คนก็มีจำนวนเร็วขึ้นมากอยู่ดี
ดังนั้น ถ้าจะให้โลกนี้คนออกลูกเป็นไข่ จำเป็นต้องมีผู้ล่าอันดับสูงกว่าคน
คาดว่า คงต้องมีไดโนเสาร์ยักษ์ไล่กินคนด้วย
เพื่อให้สมเหตุผลว่าทำไมคนเราต้องออกลูกเป็นไข่
ทีนี้ คนพัฒนาขึ้น ไม่ยอมโดนกิน เลยไล่ฆ่าไดโนเสาร์ยักษ์จนหมดโลก
คนก็เลยแพร่พันธ์ด้วยไข่จนล้นโลก
ต้องออกมารณรงค์ให้คุมกำเนิด ลดการออกไข่
กลายเป็นว่า ต่อให้ออกลูกเป็นตัว หรือเป็นไข่
มนุษย์ก็วิบัติเหมือนเดิม...
